คณะกรรมการของ อย. สหรัฐฯ รับรองวัคซีนต้านโควิด-19 สูตรที่สอง

Vials with a sticker reading, "COVID-19 / Coronavirus vaccine / Injection only" and a medical syringe are seen in front of a displayed Moderna logo in this illustration taken October 31, 2020. REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

ในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี คณะกรรมการที่ปรึกษาพิเศษด้านวัคซีนขององค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA รับรองความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีนต้านโควิด-19 ตัวที่สองที่บริษัทเวชภัณฑ์ โมเดอร์นา (Moderna) พัฒนาร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NIH ตามรายงานของสำนักข่าว The Associated Press

หลังการประชุมนานเจ็ดชั่วโมง คณะกรรมการดังกล่าวลงมติรับรอง 20 ต่อ 0 โดยมีผู้งดออกเสียงหนึ่งคน โดยคณะกรรมการเห็นว่าวัคซีนของโมเดอร์แสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ต่อผู้รับวัคซีนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

คาดว่า FDA อาจเคาะการอนุมัติขั้นสุดท้ายหลังจากนี้อีกไม่นาน โดย ดร. โดแรน ฟิงค์ ประจำ FDA กล่าวเปิดการประชุมของคณะกรรมการว่า การพิจารณวัคซีนครั้งนี้เป็นไปอย่าง "โปร่งใส เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ และอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล”


การอนุมัติวัคซีนของโมเดอร์นาจะช่วยส่งเสริมการระดมฉีดวัคซีนในสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และไบโอเอนเทค (BioNTech) ที่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้ ถูกจัดส่งออกไปมากขึ้นในวันพฤหัสบดี เพื่อให้ถึงมือบุคลากรด้านสาธารณสุขและผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชราทั่วสหรัฐฯ

Colleen Teevan, System Pharmacy Clinical Manager at Hartford HealthCare, administers the Pfizer-BioNTech vaccine for COVID-19 to healthcare worker Connor Paleski outside of Hartford Hospital, Monday, Dec. 14, 2020, in Hartford, Conn. (AP Photo/Jessica Hil


สหรัฐฯ กำลังต้องการวัคซีนตัวที่สอง ที่ผลิตโดยโมเดอร์นา อย่างเร่งด่วน ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และยอดผู้เสียชีวิตที่ยังคงพุ่งสูงขึ้นก่อนเข้าช่วงเทศกาลวันหยุด ที่คาดว่าผู้คนจะเดินทางและพบปะกันจนทำให้การระบาดของเชื้อไวรัสหนักขึ้นกว่าเดิม

วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีคล้ายกับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอนเท็ค โดยใช้ชิ้นส่วนรหัสพันธุกรรมของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถตรวจจับและต่อสู้กับเชื้อดังกล่าวได้ โดยวัคซีนของทั้งสองบริษัทจะแบ่งให้เป็นสองโดส ห่างกันครั้งละสี่สัปดาห์

การพัฒนาวัคซีนทั้งสองอย่างรวดเร็วถือว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ในการเอาชนะโควิด-19 โดย ดร. เจซเซ กู๊ดแมน อดีตหัวหน้าแผนกวัคซีนของ FDA ระบุว่า วัคซีนทั้งสองมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาวัคซีนทั้งสองสูตรในกลุ่มอาสาสมัครเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น และจะต้องมีการติดตามผลต่อไปเพื่อตอบคำถามที่สำคัญ เช่น วัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันได้นานเท่าใด

อีกคำถามหนึ่งที่ยังไม่ได้รับคำตอบคือ วัคซีนจะสามารถป้องกันการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการได้หรือไม่ ซึ่งทางโมเดอร์นาระบุว่าอาจเป็นไปได้ โดย ดร. แจคเกอร์ลีน มิลเลอร์ แห่งโมเดอร์นา ระบุว่า ผู้เข้ารับการทดลองได้รับการเก็บตัวอย่างทางจมูกก่อนได้รับวัคซีนจริงหรือวัคซีนหลอกโดสที่สอง และผลการตรวจหาเชื้อจากผู้รับวัคซีนจริง 14 คน และผู้รับวัคซีนหลอก 38 คน พบว่าพวกเขาติดเชื้อไวรัสแบบไม่แสดงอาการ

นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้อย่างค่อนข้างแน่นอนว่า FDA จะอนุมัติวัคซีนของโมเดอร์นาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ในวันอังคาร FDA ได้ทำการวิเคราะห์เบื้องต้น และพบว่าวัคซีนดังกล่าวปลอดภัยและมีประสิทธิผล ทั้งนี้ วัคซีนของโมเดอร์นาจะยังอยู่ในขั้นทดลองของบริษัทต่อไป โดยเป็นการทดลองนานสองปีในกลุ่มผู้คน 30,000 คน

ในการทบทวนประสิทธิผลของวัคซีนนั้น FDA ระบุว่า วัคซีนของโมเดอร์นามีประสิทธิผลในการป้องกันโรคโควิด-19 กว่า 94 เปอร์เซ็นต์ และไม่พบปัญหาความปลอดภัยร้ายแรง โดยพบเพียงผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปหลังการฉีดวัคซีน เช่น อาการไข้ เหนื่อย และปวดกล้ามเนื้อ

ทั้งนี้ หาก FDA อนุมัติวัคซีนของโมเดอร์นา คาดว่าวัคซีนเกือบ 6 ล้านโดสจะถูกจัดส่งไปยังบุคลากรด้านสาธารณสุขและบ้านพักคนชรา โดยจะต้องมีการจัดเก็บวัคซีนในอุณหภูมิแช่แข็ง แต่ไม่ถึงกับระดับเย็นจัดเหมือนวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอนเท็ค