องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA ระบุว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นของวัคซีนต้านโควิด-19 ตัวที่สองที่พัฒนาโดยบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) และสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NIH มีผลเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยเบื้องต้นพบว่าวัคซีนดังกล่าวปลอดภัยและมีประสิทธิผล
ผลการวิเคราะห์ดังกล่าว ทำให้วัคซีนของโมเดอร์นาเข้าใกล้การได้รับอนุมัติจาก FDA ไปอีกหนึ่งก้าว ในขณะที่โรงพยาบาลทั่วประเทศเพิ่มการฉีดวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และบริษัทไบโอเอ็นเทค (BioNTech) ที่ FDA อนุมัติให้ใช้ได้เป็นการฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมการที่ปรึกษาที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก มีกำหนดให้คำแนะนำในการอนุมัติวัคซีนของโมเดอร์นาต่อ FDA ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยคาดว่า FDA จะมีมติอนุมัติในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากนั้นไม่นาน
เอกสารสำหรับการประชุมของคณะกรรมการที่ปรึกษาที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของ FDA ไม่ได้ระบุถึงข้อกังวลใดๆ ต่อวัคซีนของโมเดอร์นาเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้เริ่มแจกจ่ายวัคซีนของไฟเซอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนชุดแรกจำนวน 2.9 ล้านโดสนี้เป็นกลุ่มแรกๆ คือ บุคลากรด้านสาธารณสุข ผู้พักอาศัยและเจ้าหน้าที่ในบ้านพักคนชรา โดยซานดร้า ลินด์เซย์ พยาบาลดูแลผู้ป่วยวิกฤตินิวยอร์ค เป็นบุคคลแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเฉลิมฉลองการเริ่มให้วัคซีนของสหรัฐฯ หลังจากที่เขาผลักดันให้มีการพัฒนาวัคซีนอย่างเร่งด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่ให้ความสำคัญกับภัยร้ายแรงของไวรัสมากเท่าที่ควรก็ตาม
วัคซีนโควิด-19 จัดส่งจากโรงงานผลิตวัคซีนของไฟเซอร์ในเมืองคาลามาซู รัฐมิชิแกน เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อขึ้นเครื่องบินขนส่งด้วยไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ โดยพลเอกกุสตาฟ เพอร์นา หัวหน้าเจ้าหน้าที่โครงการ Operation Warp Speed ของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า การแจกจ่ายวัคซีนเป็นไปด้วยดี
ทั้งนี้ ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ระบุว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วกว่า 300,000 คน มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 16.5 ล้านคน มีจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก
สตีเฟน ฮาห์น กรรมการของ FDA ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ชาวอเมริกัน 20 ล้านคน จะได้รับวัคซีนครั้งแรกจากที่ต้องฉีดทั้งหมดสองครั้ง ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้
มอนเซฟ สลาอุย หัวหน้าโครงการ Operation Warp Speed กล่าวในรายการข่าว Fox News Sunday ว่า ชาวอเมริกัน 100 ล้านคนอาจได้รับวัคซีนภายในสิ้นเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม ฮาห์นกล่าวในรายการข่าว This Week ของสถานีโทรทัศน์ ABC News ว่า ชาวอเมริกันจำนวนราวหนึ่งในสี่ถึงครึ่งหนึ่งรู้สึกไม่ไว้ใจวัคซีนของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค แม้ FDA จะรับรองวัคซีนดังกล่าวแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ยืนยันว่าจะไม่รับการฉีดวัคซีนอีกด้วย
กรรมการ FDA ระบุว่า รัฐบาลต้องโปร่งใสถึงความปลอดภัยของวัคซีนทั้งของไฟเซอร์และของโมเดอร์นาที่กำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ทั้งนี้ ผลการทดลองทางคลีนิคระบุว่า วัคซีนทั้งสองเจ้ามีประสิทธิผลอยู่ที่ 95 เปอร์เซ็นต์
สลาอุยกล่าวว่า การที่สหรัฐฯจะมีภูมิคุ้มกันชุมชนที่ช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสได้นั้น ประชาชนราว 75 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์จะต้องมีภูมิต้านทาน โดยเขาหวังว่าชาวอเมริกันจะมีภูมิคุ้มกันในระดับนั้นได้ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน เขายังย้ำด้วยว่า เขากังวลมากว่าชาวอเมริกันจะลังเลไม่ยอมรับวัคซีนดังกล่าว
ดร. เรย์มอนด์ พลา วิสัญญีแพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ระบุว่า ในฐานะที่เขาเป็นชาวแอฟริกันอเมริกัน เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ต้องรับวัคซีน เนื่องจากชาวผิวดำจำนวนมากไม่ยอมรับวัคซีน อันเป็นผลจากการปฏิบัติแบบเหยียดเชื้อชาตี่ทำให้ชาวผิวดำไม่ได้รับการปฏิบัติดีเท่าที่ควร และกลายเป็นเหยื่อทดลองทางการแพทย์ที่ไม่มีจริยธรรมมายาวนานหลายสิบปี