ณ ฐานทัพทหารแห่งหนึ่งนอกเมืองหลวงเม็กซิโก มีโรงเรียนอนุบาลสำหรับลูกสุนัข ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกด่านแรกของสุนัขกู้ภัยและสุนัขดมกลิ่นเพื่อช่วยทีมต่อต้านยาเสพติดในเม็กซิโก
ลูกสุนัขทั้งหลายที่วันหนึ่งจะกลายเป็นสุนัขกู้ภัย หรือสุนัขดมกลิ่นเพื่อค้นหายาเสพติดหรือวัตถุระเบิด ได้รับการฝึกขั้นพื้นฐานที่ศูนย์ฝึกสุนัขของกองทัพบกและกองทัพอากาศของเม็กซิโก
ลูกสุนัขเหล่านี้เกิดและใช้เวลาสี่เดือนแรก ในศูนย์ฝึกสุนัขที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1998 แห่งนี้ ก่อนที่จะถูกส่งไปยังหน่วยทหารต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อรับการฝึกเฉพาะทางเพิ่มเติม
พันเอก อเลฮานโดร คามาโช อิบาร์รา (Alejandro Camacho Ibarra) สัตวแพทย์และผู้อำนวยการศูนย์สุนัขกล่าวว่า สุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด และร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่ฉลาด มีความเข้มแข็ง และทนทานต่อโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้อย่างมาก และว่าศูนย์ฝึกสุนัขแห่งนี้เป็นเพียงศูนย์ฝึกแห่งเดียวของกองทัพเม็กซิโก และอาจจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศละตินอเมริกาเลยก็ว่าได้
ศูนย์ฝึกแห่งนี้ค่อนข้างเข้มงวดด้านสุขอนามัย เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคพาร์โวไวรัสในสุนัขเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทำให้ลูกสุนัขบางตัวป่วย ผู้ที่มาเยี่ยมชมจะได้รับการฆ่าเชื้อด้วยสเปรย์ และต้องเดินผ่านที่พ่นน้ำยาทำความสะอาดพื้นรองเท้า โดยมีเพียงทหารเท่านั้นที่สามารถสัมผัสลูกสุนัขได้ หากผู้เยี่ยมชมต้องการเข้าไปดูสุนัขใกล้ ๆ จะต้องสวมชุดป้องกันเชื้อโรคและหน้ากาก แต่ก็ยังไม่สามารถอุ้มหรือลูบหัวสุนัขได้อยู่ดี
การฝึกสุนัขนั้นจะเริ่มตั้งแต่ตอนที่พวกมันอายุยังน้อย หรือประมาณหนึ่งเดือนหลังคลอดเมื่อลูกสุนัขหย่านม การฝึกสอนจะเป็นแบบการเล่นเกม แต่แทนที่จะได้รับขนมเป็นรางวัลเหมือนสุนัขทั่ว ๆ ไป รางวัลเดียวสำหรับสุนัขที่ศูนย์ฝึกนี้ก็คือการกอดและการชมเชย
พันเอกคามาโชอธิบายว่า ลูกสุนัขแต่ละตัวจะถูกเรียกเป็นหมายเลข จนกระทั่งพวกมันอายุได้สามเดือน ก็จะได้รับการตั้งชื่อ โดยในแต่ละปี ทางศูนย์จะตั้งชื่อสุนัขตามตัวอักษรตัวเดียวกัน อย่างในปี 2023 นี้ จะใช้ตัวอักษร F เช่น เฟโบ โฟรโด ฟอสซิล ฟอร์ราจ และ ไฟโด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การฝึกขั้นพื้นฐานจะสิ้นสุดเมื่อลูกสุนัขอายุได้ 4 เดือน จากนั้น พวกมันจะถูกย้ายไปยังหน่วยทหารอื่น ๆ เพื่อที่จะฝึกเป็นผู้ชำนาญการในการตรวจจับยาเสพติดหรือวัตถุระเบิด นอกจากนี้ยังแยกย้ายไปในหน่วยค้นหาและช่วยเหลือ หรือในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยอีกด้วย
รัฐบาลชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ (resident Andrés Manuel López Obrador) แห่งเม็กซิโก ต้องพึ่งพากองทัพอย่างมากในการริเริ่มโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่การรักษาความปลอดภัยในสถานที่สาธารณะ ไปจนถึงการสร้างสนามบินและเส้นทางรถไฟเพื่อการท่องเที่ยว และหน่วยสุนัขตำรวจ K-9 เป็นองค์ประกอบสำคัญของกิจกรรมบางอย่างของกองทัพ อย่างเช่น การตรวจจับยาเสพติด
พันเอกคามาโชกล่าวว่า สุนัขบางตัวที่เกิดในศูนย์แห่งนี้ได้รับการฝึกให้ตรวจจับเฟนทานิล ซึ่งเป็นสารฝิ่นสังเคราะห์ที่ลักลอบค้าโดยกลุ่มค้ายาชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดราวปีละ 70,000 รายในสหรัฐฯ
แต่สุนัขจะต้องย้ายไปที่อื่นเพื่อรับการฝึกพิเศษ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการฝึกขั้นพื้นฐานที่ศูนย์ของเขาโดยการใช้วัตถุ "ดึงดูด" ชุบด้วยกลิ่นของสิ่งที่สุนัขต้องการติดตามค้นหา เช่น ยาเสพติด เป็นต้น
พันเอกคามาโชกล่าวต่อไปว่า สุนัขจะถูกปลดประจำการหลังจากทำงานไปแปดปี พวกมันล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ดูแลในช่วงชีวิตการทำงานในกองทัพ
ทั้งนี้ สุนัขเหล่านี้ได้กลายเป็นฮีโร่ในภารกิจมากมายในเม็กซิโกและต่างประเทศ อย่างสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด โปรเตโอ ที่ตายระหว่างภารกิจกู้ภัยเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ในตุรกี ซึ่งเป็นภัยพิบัติที่คร่าชีวิตกว่า 40,000 ราย และสุนัขลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ฟรีดา สังกัดกองทัพเรือเม็กซิโก ที่โด่งดังจากภารกิจกู้ภัยในเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 19 กันยายนปี 2017 ก่อนที่ฟรีดาจะเกษียณอายุจากงานกู้ภัยและตายไปเมื่อปี 2022
- ที่มา: เอพี