ในสุดสัปดาห์นี้ไปจนถึงต้นสัปดาห์หน้า จะมีงานใหญ่สำหรับคนรักสุนัขและตัวสุนัขเองในสหรัฐฯ ซึ่งก็คือ งานประกวดสุนัข โดย Westminster Kennel Club หรือ สโมสรผู้เลี้ยงสุนัขเวสต์มินสเตอร์ ที่หลายคนอาจคิดว่า ไม่ใช่งานใหญ่อะไร เพราะผู้เลี้ยงเพียงแค่ต้อง เลือกสุนัข ตัดแต่งขนให้สวยงาม เตรียมท่ายืน/ท่านั่ง และฝึกจูงในสนาม ก็เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง งานที่ได้ชื่อว่าทรงเกียรติที่สุดสำหรับแวดวงผู้เลี้ยงสุนัขของสหรัฐฯ นี้ มีอะไรมากกว่านั้น ถึงทำให้กลายมาเป็นตำนานที่ยาวนานถึง 147 ปีเลยทีเดียว
สำนักข่าว เอพี รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับงานใหญ่ประจำปีนี้มานำเสนอ
จำนวนสุนัขที่เข้าประกวด
มีสุนัขจำนวน 2,500 ตัวจากทั้งหมด 210 สายพันธุ์ที่ลงชื่อสมัครเข้าประกวดที่จะมีการประกาศผลผู้ชนะในคืนวันอังคารตามเวลาในนครนิวยอร์ก
รายงานข่าวระบุว่า สุนัขเข้าประกวดนั้นมาจาก 49 รัฐในสหรัฐฯ และ 13 ประเทศ โดยมีหลากหลายพันธุ์ตั้งแต่พันธุ์เล็กเช่น ชิวาวา ไปจนถึงพันธ์ยักษ์ใหญ่เช่น เกรทเดน และมีพันธุ์คุ้นหน้าคุ้นตา อย่าง ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ หรือ พันธุ์หายาก เช่น สลูกิ (sloughi)
กระบวนการคัดสรรสุนัข
สุนัขเข้าประกวดทุกตัวนั้นเป็นแชมป์ในรายการอื่น ๆ มาก่อนแล้ว ซึ่งแปลว่า งานนี้คือการมาชิงชัยคว้าถ้วยเพิ่มให้กับชั้นวางที่บ้าน ขณะที่ แชมป์งานประกวดบางรายการก็ได้รับเชิญเป็นพิเศษให้มาร่วมงาน
ทั้งนี้ สุนัขไร้ถ้วยก็สามารถสมัครมาประกวดได้เช่นกัน
สำหรับขั้นตอนการคัดกรองนั้น เริ่มต้นที่ลักษณะทางกายภาพและอารมณ์นิสัยที่ส่องประกายออกมาในแบบที่ต้อง “เข้าทาง” การประกวดเสียก่อน
เพื่อให้มีโอกาสคว้าชัยในงานใหญ่เช่นนี้ เจ้าของบางคนเลือกหาสุนัขพันธุ์ดีมาตั้งแต่ต้น ขณะที่ บางคนใช้วิธีพาสุนัขแสนรักเข้าแข่งทุกรายการทั่วประเทศเพื่อศึกษาข้อมูลต่าง ๆ และบางคนก็ใช้วิธีลงประกาศโฆษณาอวดความสำเร็จของสุนัขเพื่อส่งเสริมโปรไฟล์ก่อนจะมาร่วมประกวด
งานสุนัขประกวดเกี่ยวอะไรกับสนามเทนนิส
การจัดงานในปีนี้จะมีขึ้นที่สนามเทนนิส USTA Billie Jean King National Tennis Center ในนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานที่ใหม่ หลังจัดที่ Madison Square Garden ติดต่อกันมาหลายทศวรรษ ก่อนจะมีการย้ายไปจัดในพื้นที่นอกอาคารในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่บริเวณชานเมืองนิวยอร์ก เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19
ในปีนี้ ผู้จัดงานได้ต้องการกลับมายังกลางนครนิวยอร์ก และได้ติดต่อไปยังผู้ดูแลพื้นที่สนามเทนนิสที่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการแข่งขันเทนนิส US Open โดย โดนัลด์ สตูร์ซ กล่าวว่า “กิจกรรมสุนัขอันเลื่องชื่อ ก็เหมาะดีกับสถานที่อันเลื่องชื่อ”
ขั้นตอนการประกวดมีอะไรบ้าง
สุนัขที่ถูกคัดแล้วว่า “เข้าทาง” กับการประกวดจะเข้ารอบไปเจอกับคู่แข่งอื่น ๆ ซึ่งอาจมีนับสิบหรือไม่กี่ตัวก็ได้ โดยผู้ชนะจากแต่ละสายพันธุ์ก็จะเข้าไปสู่รอบรองชนะเลิศให้กรรมการตัดสินในแบบ “กลุ่ม” ต่าง ๆ เช่น กลุ่มสุนัขล่าเนื้อ กลุ่มสุนัขต้อนฝูงสัตว์ หรือกลุ่มเทอร์เรีย
ส่วนในรอบสุดท้ายนั้น ผู้ชนะจาก 7 กลุ่มที่มีการจัดประกวดจะแข่งกันเองเพื่อหาที่หนึ่ง
กรรมการมองหาอะไรในสุนัขเข้าประกวด
กรรมการมีหน้าที่ที่จะตัดสินว่า สุนัขตัวไหนมีคุณสมบัติดีเลิศหรือ “ได้มาตรฐาน” ของสายพันธ์ตน
มาตรฐานที่ว่านั้นมาจากหน้าที่พื้นฐานดั้งเดิมของแต่ละสายพันธุ์ และอาจรวมความถึงรายละเอียดเช่น สุขภาพฟัน หาง หรืออารมณ์ ยกตัวอย่างเช่น สุนัขล่าเนื้อที่กำเนิดมาจากพื้นที่ที่กันดารต้องมีอุ้งเท้าที่หนา ขณะที่ สุนัขต้อนฝูงสัตว์ต้องมีสัดส่วนลำตัวที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถเปลี่ยนทิศทางขณะวิ่งได้อย่างรวดเร็ว เป็นต้น
ทั้งนี้ กรรมการจะทำการตรวจสุนัขด้วยมืออย่างละเอียดและเฝ้าดูการเคลื่อนไหวสุนัขประกวด เพื่อเก็บรายละเอียดทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงความไม่สมบูรณ์แบบที่อาจมีด้วย โดยในรอบสุดท้าย ความแตกต่างของตัวที่ชนะกับตัวอื่น ๆ อาจยิบย่อยจนดูแทบไม่แตกต่าง จนผู้ติดตามชมมักกล่าวกันว่า ชัยชนะนั้นสามารถตกเป็นของ “สุนัขเด่นประจำวัน” (dog of the day) โดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ
สุนัขสายพันธุ์ใดชนะเลิศมากที่สุด
ข้อมูลย้อนกลับไปถึงปี ค.ศ. 1904 สุนัขสายพันธ์ ไวร์ ฟอกซ์ เทอร์เรีย (Wire Fox terrier) คือ พันธุ์ที่คว้าถ้วยไปได้มากที่สุดถึง 15 ครั้ง ส่วนสายพันธุ์ที่ชนะบ่อย ๆ ก็มี สก็อตติช เทอร์เรีย (Scottish terrier) รวมทั้ง อิงลิช สปริงเกอร์ สแปเนียล (English springer spaniel) พุดเดิล (poodle) และปักกิ่ง (Peking)
สุนัขหลายสายพันธุ์ที่เรารู้จักยังไม่เคยคว้าถ้วยก็มีอยู่มาก เช่น ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ แต่เจ้าของทั้งหลายก็ยังไม่หมดหวังและส่งสุนัขแสนรักของตนเข้าประกวดอยู่เสมอ
สุนัขลูกผสมเคยคว้าถ้วยได้บ้างไหม
ผู้จัดงานอ้างว่า ในช่วงต้น ๆ นั้นเคยมีสุนัขลูกผสมเข้าประกวดบ้าง แต่นับตั้งแต่มีการมอบถ้วยรางวัลในปี ค.ศ.1907 เป็นต้นมานั้น สุนัขที่ชนะล้วนเป็นพันธุ์แทน ซึ่งคว้าชัยได้ในการทดสอบทุกประเภท เช่น ความคล่องแคล่ว และ การเชื่อฟังคำสั่ง
แต่ถึงผู้จัดจะเพิ่มรางวัลพิเศษให้กับสุนัขพันธุ์ผสมที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแล้ว กลุ่มสิทธิ์สัตว์ต่าง ๆ เช่น PETA (People for Ethical Treatment of Animals) ก็ยังแสดงความไม่พอใจและมาประท้วงการจัดงานทุกครั้ง เพราะงานนี้เน้นแต่สุนัขพันธุ์แท้นั่นเอง
ผู้ชนะได้รับอะไรบ้าง
สิ่งที่ทั้งผู้เลี้ยงและสุนัขที่ชนะจะได้รับก็คือ สิทธิ์ในการประกาศให้โลกรู้และถ้วยรางวัล โดยไม่มีเงินรางวัลให้ เว้นแต่สำหรับสุนัขที่ชนะการทดสอบความคล่องแคล่วและการเชื่อฟังคำสั่งที่ผู้จัดจะมอบสิทธิ์การบริจาคเงินสดตัวละ 5,000 ดอลลาร์ ให้กับศูนย์ฝึกสุนัขที่ต้องการ หรือไม่ก็ให้กับกองทุน American Kennel Club Humane Fund ก็ได้
สรุป คือ ประกวดแล้วได้อะไร
ผู้ร่วมงานกล่าวว่า ประเด็นของการเข้าประกวดก็คือ การพาสุนัขที่มีคุณสมบัติดีมาออกงาน โดยเฉพาะพันธุ์ที่คนทั่ว ๆ ไปไม่ได้เห็นบ่อย ๆ ขณะที่ หลายคนบอกว่า เป็นการสร้างมิตรภาพสำหรับกลุ่มคนรักสุนัขที่มาจากหลายที่และมีพื้นเพต่างกัน
- ที่มา: เอพี