อินโดฯ ต้อนรับ รมต.กลาโหมสหรัฐฯ คึกคัก พร้อมขอผ่อนปรนเรื่องสิทธิมนุษยชน

อินโดนีเซียต้อนรับ รมต. กลาโหมสหรัฐฯ ‘เจมส์ แมททิส’ อย่างคึกคักพร้อมขอผ่อนปรนเรื่องสิทธิ์มนุษยชน

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ "เจมส์ แมททิส"ได้รับการต้อนรับอย่างคึกคักจากกองทัพอินโดนีเซีย ระหว่างการเยือนเอเชียสัปดาห์นี้

หน่วยคอมมานโดของอินโดนีเซียแสดงความพร้อมทางทหารในหลายกิจกรรม เช่น การใช้สุนัขฝึกจู่โจมผู้ก่อการร้าย ท่ามกลางเสียงเพลงประกอบภาพยนตร์ Mission Impossible และยังมีทหารที่ร่วมโชว์แสดงการกัดคองู และดื่มเลือดงูสดๆ ต่อหน้ารัฐมนตรีแมททิส !!

US Indonesia

เจ้ากระทรวงกลาโหมอเมริกันกล่าวแบบติดตลกว่า เมื่อเห็นความพร้อมเพียงในกิจกรรมเหล่านี้ที่ทำได้ดีอย่างไรที่ติ ก็จะมีความเข้าใจถึงการเตรียมตัวในเรื่องใหญ่ๆ ได้

รัฐมนตรีแมททิสได้กล่าวถึงภาพรวมความร่วมมือของสหรัฐฯ และอินโดนีเซียด้วยว่า สหรัฐฯ มองหาโอกาสขยายความสัมพันธ์ที่ตอบสนองข้อเรียกร้องของอินโดนีเซียเรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย และชื่นชมการทำงานของกองทัพอินโดนีเซียในเรื่องนี้

ในส่วนที่เกี่ยวกับทะเลจีนใต้ รัฐมนตรีแมททิสกล่าวว่า “แน่นอนว่า อินโดนีเซียเป็นจุดศูนย์กลางในด้านการเดินเรือของภูมิภาคที่สำคัญยิ่ง และสหรัฐฯ สามารถทำงานเพื่อรักษาการตระหนักถึงความสำคัญของเขตทางทะเลในทะเลจีนใต้และทะเลนาทูนา”

US Defense Secretary Jim Mattis observes an Indonesian special forces counterterrorism demonstration at the Indonesian Armed Forces Headquarters in Jakarta, Indonesia, Jan. 24, 2018. (Photo: B. Gallo / VOA)

​

ทั้งนี้ หลังจากที่ปักกิ่งเพิ่มอิทธิพลในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ความขัดแย้งเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์กับอีกหลายประเทศ อินโดนีเซีย แม้จะไม่อยู่ในฐานะคู่กรณีโดยตรงกับจีน แต่เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลจาการ์ตาเปลี่ยนการเรียกพื้นที่บางส่วนในทะเลจีนใต้จนทำให้จีนแสดงความไม่พอใจมาแล้ว

รัฐมนตรีแมททิสกล่าวว่า อินโดนีเซียแสดงความเต็มใจมากขึ้นที่จะทัดทานการอ้างสิทธิ์ของจีนเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้

ขณะที่สหรัฐฯ ต้องการสานความสัมพันธ์กับอินโดนีเซีย เพื่อคานอำนาจจีน อินโดนีเซียก็มีสิ่งที่ต้องการให้อเมริกาช่วยเหลือเช่นกัน

ฝ่ายกลาโหมของอินโดนีเซียต้องการให้สหรัฐฯ ผ่อนปรนกฎหมายที่ขณะนี้ขัดขวางการกระชับความร่วมมือของกองทัพอเมริกันกับหน่วยรบพิเศษ Kopassus ที่เป็นกลุ่มทหารแนวหน้าของอินโดนีเซีย แต่มีประวัติเรื่องการสังหารและทรมานเหยื่อในช่วง 20 ปีก่อน เมื่อครั้งที่อินโดนีเซียส่งทหารไปในติมอร์ตะวันออก

พลเอก เจมส์ แมททิส กล่าวว่า เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นมากว่า 20 ปีแล้ว และฝ่ายสหรัฐฯ จะพิจารณาช่องทางและกระบวนการต่างๆ ในเรื่องนี้

ตัวแทนของหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน แอนเดรส ฮาโซโน กล่าวว่า หน่วยรบพิเศษ Kopassus ยังคงมีสมาชิกที่เคยทำการลักพาตัวนักศึกษา และถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีสังหารผู้บริสุทธิ์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปัจจุบันสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับอินโดนีเซีย นายทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โจเซฟ เฟลเทอร์ กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ขายยุทโธปกรณ์มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ เขาบอกว่ารัฐบาลจาการ์ต้ากำลังพิจารณาซื้อเครื่องบิน F-16 เพิ่มอีกด้วย

ในวันพุธ รัฐมนตรีแมททิสเดินทางออกจากอินโดนีเซียเป็นที่เรียบร้อย และเริ่มการเยือนประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่วิจารณ์จีนอย่างชัดเจนที่สุดประเทศหนึ่งเรื่องทะเลจีนใต้ในภูมิภาคนี้

(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของผู้สื่อข่าว William Gallo)