ประชาชนในเลบานอนร่วมพิธีระลึกถึงเหยื่อเหตุวินาศภัยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 160 คนและมีผู้บาดเจ็บราว 6,000 คน ทั้งยังสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับกรุงเบรุต เมืองหลวงของประเทศด้วย
เป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้วหลังเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่คลังสินค้าที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในกรุงเบรุต กลายมาเป็นเหตุสลดครั้งใหญ่ของประเทศ และในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เสียงระฆังจากโบสถ์และสุเหร่าทั่วเมืองดังขึ้นเมื่อเวลา 15.09 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เกิดระเบิดขึ้นจริง เป็นสัญญาณให้ประชาชนร่วมกันสวดภาวนาขณะระลึกถึงเหยื่อของเหตุการณ์ครั้งนี้
การไว้อาลัยแด่ผู้ที่จากไปเพราะผลกระทบของแรงระเบิดในกรุงเบรุตมีขึ้น หลังการเดินชุมนุมประท้วงที่ดำเนินมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบและลาออกจบลงด้วยการก้าวลงจากอำนาจของนายกรัฐมนตรี ฮัสซัน ดิอับ พร้อมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันจันทร์
และในขณะที่กระบวนการตั้งรัฐบาลใหม่เริ่มขึ้นในวันอังคาร ประชาชนจำนวนมากเรียกร้องให้ทีมใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศเป็นคณะรัฐมนตรีอิสระที่ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในความผิดพลาดด้านการบริหารจัดการประเทศ ขณะที่คนอีกกลุ่มเรียกร้องให้มีการตั้งคณะสอบสวนอิสระหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการระเบิดครั้งนี้ เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในกระบวนการสืบสวนของรัฐ
อย่างไรก็ดี ทางการเลบานอนปฏิเสธข้อเรียกร้องให้มีการสอบสวนโดยคณะทำงานต่างชาติ
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอียิปต์และจอร์แดน เดินทางเข้าพบประธานาธิบดี มิเชล โอน ของเลบานอน โดย ซาเมห์ โชครี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ ได้ยืนยันว่า อียิปต์มีความพร้อมเต็มที่ที่จะช่วยเหลือชาวเลบานอนให้ฟื้นตัวจากเหตุการณ์นี้
นอกเหนือจาก ผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว แรงระเบิดที่เกิดขึ้นยังทำให้ประชฟาชนในกรุงเบรุตกว่า 250,000 คนไร้ที่อยู่อาศัยด้วย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา การประชุมของกลุ่มผู้บริจาค ซึ่งประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครอง ของฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพร่วมกับองค์การสหประชาชาติ สามารถระดุมทุนจากผู้นำโลกได้เกือบ 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปช่วยเลบานอนแล้ว โดยเงินจำนวนดังกล่าวไม่รวมความช่วยเหลือต่างๆ ที่สหรัฐฯ ประกาศมอบให้เป็นมูลค่าราว 17 ล้านดอลลาร์