เครมลินชี้ รัสเซีย “ไม่ได้อะไร” จากข้อเสนอของสหรัฐฯ ในการพักรบกับยูเครน

ภาพที่ถ่ายจากคลิปวิดีโอนี้ แสดงให้เห็นปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ร่วมประชุมกับผบ.เหล่าทัพ ขณะเยื่ยมศูนย์ควบคุมการรบ ในแคว้นเคิร์สก เมื่อ 12 มี.ค. 2568

ภาพที่ถ่ายจากคลิปวิดีโอนี้ แสดงให้เห็นปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ร่วมประชุมกับผบ.เหล่าทัพ ขณะเยื่ยมศูนย์ควบคุมการรบ ในแคว้นเคิร์สก เมื่อ 12 มี.ค. 2568

เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ได้แจ้งกับตัวแทนสหรัฐฯ แล้วว่า ข้อเสนอหยุดยิง 30 วันในสงครามยูเครนนั้น มีแต่จะทำให้กรุงเคียฟมีเวลาพักเอาแรง โดยรัสเซียไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์เลย ตามรายงานของรอยเตอร์

ยูริ อุชาคอฟ อดีตทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตันซึ่งได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนของปูตินในด้านนโยบายต่างประเทศที่สำคัญ ๆ บอกกับสื่อรัสเซียในวันพฤหัสบดีว่า ได้พูดคุยกับ ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เกี่ยวกับจุดยืนของมอสโกในประเด็นการหยุดยิงเมื่อวันพุธ และระบุว่า ข้อเสนอที่สหรัฐฯ ได้หารือกับตัวแทนของกรุงเคียฟที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อต้นสัปดาห์นั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการเปิดทางให้กองทัพยูเครนได้พักรบเท่านั้น “ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย”

อุชาคอฟกล่าวด้วยว่า ข้อเสนอดังกล่าว “ไม่ได้ให้อะไรกับเรา ให้แต่พวกยูเครนมีโอกาสได้ตั้งลำ ฟื้นฟูเรี่ยวแรงและเดินหน้าทำการแบบเดิมต่อไป”

ตัวแทนรัสเซียยืนยันว่า เป้าหมายของมอสโกคือ “การบรรลุข้อตกลงอย่างสันติและยั่งยืน โดยพิจารณาถึงผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศเราและความกังวลของเราที่ทราบกันดีอยู่”

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัสเซียจะปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ หรือไม่ อุชาคอฟกล่าวว่า ปูตินน่าจะต้องการพูดกับสื่อและให้รายละเอียดเกี่ยวกับจุดยืนของรัสเซียด้วยตนเอง

Your browser doesn’t support HTML5

สหรัฐฯ กลับมาให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน หลังประชุมดีลสันติภาพที่ซาอุฯ

คำกล่าวของเจ้าหน้าที่เครมลินที่ทำงานเคียงคู่ปูตินมาตั้งแต่ปี 2012 มีออกมา ขณะที่ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางถึงกรุงมอสโกเพื่อหารือข้อตกลงหยุดยิงในสงครามที่เกิดขึ้นจากการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย

ยังไม่มีความชัดเจนว่า ทรัมป์จะมีปฏิกิริยาอย่างไรในเรื่องนี้ หลังกล่าวเมื่อวันพุธว่า ตนหวังว่ามอสโกจะตกลงยอมรับข้อเสนอหยุดยิงเพื่อยุติ “การนองเลือด” และว่า ไม่ต้องการจะทำการลงโทษด้านการเงินอย่างรุนแรงต่อรัสเซียเหมือนที่เคยดำเนินการในรัฐบาลตนในสมัยแรก เพราะ “ผมต้องการเห็นสันติภาพ”


รัสเซียรุกกลับหนัก

ในวันพฤหัสบดี รัสเซียอ้างว่า กองกำลังมอสโกได้ผลักดันทัพยูเครนออกจากเมืองซุดชา ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของแคว้นเคิร์สกแล้ว ตามรายงานของเอพี

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวอ้างความสำเร็จดังกล่าวไม่กี่ชั่วโมง หลังมีรายงานว่าปธน.ปูตินเดินทางเยี่ยมบรรดาผู้บัญชาการทหารในแคว้นเคิร์สกซึ่งอยู่ติดกับยูเครน

เอพีระบุว่า ไม่สามารถยืนยันว่า สิ่งที่รัสเซียกล่าวอ้างนั้นเป็นความจริงหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ยูเครนก็ไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้

ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน เยี่ยมศูนย์บัญชาการทหารที่รับผิดชอบการโจมตีโต้กลับยูเครนที่ยึดพื้นที่บางส่วนของแคว้นเคิร์สก์ เมื่อ 12 มี.ค. 2568 (ภาพจากเครมลิน ผ่านมาทาง AFP)

ที่ผ่านมา กองทัพยูเครนเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากรัสเซียที่ได้แรงเสริมจากกองทัพเกาหลีเหนือและโต้กลับฝ่ายเคียฟที่เข้ายึดอาณาเขตบางส่วนของเคิร์สกไว้ได้เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ปูตินได้พูดกับบรรดาผู้นำทหารเมื่อวันพุธว่า ตนคาดหวังกองทัพรัสเซียให้ “ปลดปล่อยแคว้นเคิร์สกให้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์จากศัตรูในอนาคตอันใกล้ที่สุด” และว่า สิ่งที่จำเป็นในอนาคตก็คือ “การสร้างโซนป้องกันความมั่นคงตามแนวชายแดน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้สื่อข่าวระบุว่า เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามอสโกอาจพยายามบุกยึดพื้นที่เขตปกครองซูมีของยูเครนเพิ่ม

เอพีชี้ว่า หากสัญญาณที่ว่าเป็นความจริง ประเด็นนี้ก็จะยิ่งทำให้การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงยุ่งยากขึ้นโดยปริยาย






  • ที่มา: เอพีและรอยเตอร์