ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุในวันศุกร์ว่าจะลงโทษรัสเซียขนานใหญ่ด้วยกำแพงภาษีและมาตรการการเงิน พร้อมเรียกร้องให้ยูเครน-รัสเซีย เข้ามาเริ่มเจรจาสันติภาพ ตามการรายงานของรอยเตอร์
ท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังรอยเตอร์รายงานในวันจันทร์ว่าทำเนียบขาวอาจเตรียมผ่อนปรนการคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจ รวมถึงผลักดันให้ยุติสงครามในยูเครน
ในวันศุกร์ ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “หากพวกเขา (รัสเซียและยูเครน) ไม่ต้องการจะจบ เราจะออกมาจากที่นั่น เพราะเราต้องการให้พวกเขาจบ”
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียลว่า “จากข้อเท็จจริงที่รัสเซีย “กำลังกระหน่ำ” ยูเครนเต็มที่ในสนามรบตอนนี้ ผมกำลังพิจารณาอย่างหนักเรื่องการลงโทษด้านการธนาคาร การคว่ำบาตร และกำแพงภาษีขนานใหญ่กับรัสเซียจนกว่า (จะมี) การหยุดยิง และบรรลุข้อสรุปข้อตกลงสันติภาพ”
ขณะนี้กองกำลังรัฐบาลมอสโกแทบจะสามารถปิดล้อมทหารยูเครนหลายพันคนที่บุกเข้าไปในแคว้นเคิรสก์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธการที่กรุงเคียฟหวังจะใช้เป็นหนึ่งในแต้มต่อบนเวทีเจรจาสันติภาพใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น ฝ่ายรัสเซียยังสร้างความเสียหายแก่โครงสร้างด้านพลังงานในยูเครนเพิ่มอีกในการโจมตีด้วยจรวดครั้งใหญ่ หลังสหรัฐฯ ระงับการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองให้กับยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่กำลังมองหาแรงสนับสนุนจากชาติตะวันตกอื่น ๆ จากการที่สหรัฐฯ ปรับท่าทีเข้าหารัสเซียมากขึ้น เรียกร้องให้รัสเซียหยุดการโจมตีที่ดำเนินอยู่
ผู้นำยูเครนระบุในแอปพลิเคชั่นเทเลแกรมว่า “ขั้นตอนแรกในการสร้างสันติภาพที่แท้จริงควรเป็นการบีบให้ต้นตอหนึ่งเดียวของสงครามนี้ ก็คือรัสเซีย ให้หยุดการโจมตี”
รัสเซียเผชิญกับมาตรการลงโทษจากนานาประเทศนับตั้งแต่รุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 รวมถึงจากสหรัฐฯ ที่พยายามจำกัดรายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของรัสเซีย
เซเลนสกีกล่าวในวันพฤหัสบดีนี้ว่า จะเดินทางไปพบกับมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบียในวันจันทร์หน้า ซึ่งจะตามมาด้วยการพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ของยูเครนและสหรัฐฯ ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี
สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของทรัมป์ยืนยันว่าจะมีการพูดคุยกับยูเครนที่ซาอุดีอาระเบีย
ก่อนหน้านี้ วิตคอฟฟ์ได้พูดคุยกับทางการรัสเซียแล้ว และกำลังหารือกับยูเครนเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงยุติสงครามที่กินเวลามาแล้วสามปี และรัสเซียกำลังยึดครองดินแดนของยูเครนอยู่ราวหนึ่งในห้า
ที่ผ่านมา รัฐบาลกรุงเคียฟกดดันให้สหรัฐฯ ให้การรับรองด้านความปลอดภัยในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงเข้าถึงแร่หายาก ซึ่งอาจปูทางไปสู่การยุติสงคราม แต่ถูกสหรัฐฯ ปัดตกไป โดยทรัมป์เชื่อว่าการให้สหรัฐฯ เข้าถึงสินแร่หายากในยูเครนนั้นถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับการประกันความปลอดภัย
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น