ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน เดินชมชีวิตกลางคืนในสิงคโปร์ ถ่ายรูปเซลฟี่กับผู้คนท่ามกลางเสียงเชียร์ และการทักทายจากผู้คนที่เดินผ่านไปมา
ผู้นำคิมซึ่งแต่งกายในชุดสีเทาดำที่เห็นเป็นประจำ เดินเที่ยวตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในสิงคโปร์ ในช่วงคืนวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ วิเวียน บาลากริชนัน (Vivian Balakrishnan) ก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันอังคาร
ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่พบ คิม จอง อึน ต่างหยุดยืนทักทายและขอถ่ายรูปเซลฟี่กับผู้นำเกาหลีเหนือ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้นำเผด็จการที่อายุน้อยที่สุดในโลก
ที่ Marina Bay Sands ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยม ประชาชนจำนวนมากยืนส่งเสียงให้กำลังใจผู้นำคิม ก่อนที่เขาจะสิ้นสุดการชมชีวิตยามค่ำคืนของสิงคโปร์ที่สวน Merlion Park
การเดินเที่ยวชมสิงคโปร์ครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่จะถึงการประชุมสุดยอดระหว่าง คิม จอง อึน กับ ประธานาธิบดีทรัมป์ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ที่โรงแรมบนเกาะเซนโตซ่า โดยประเด็นสำคัญคือเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับผู้นำของเกาหลีเหนือ โดยก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ยกย่องผู้นำคิมว่าเป็น "บุคคลที่น่านับถือ" และ "เปิดเผยอย่างยิ่ง" ซึ่งแตกต่างกับในอดีตที่ผู้นำสหรัฐฯ เคยใช้คำเรียกผู้นำเกาหลีเหนือว่า "ลิตเติ้ล ร็อคเก็ตแมน (Little Rocket Man)" จนสร้างความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ โอลิเวียร์ อีนอส (Olivia Enos) แห่ง Heritage Foundation ชี้ว่า การที่ผู้นำคิมเดินพบทักทายผู้คนในคืนวันจันทร์ก่อนการประชุมนั้น คือส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ "สร้างความประทับใจ" ที่มีเป้าหมายทำให้ทั่วโลกรู้สึกนิยมในตัวผู้นำคิม
"ต้องไม่ลืมว่า คนที่เดินเที่ยวชมชีวิตกลางคืนที่ย่าน Marina Bay คือคนคนเดียวกับที่สั่งสังหารพี่ชายของตนเองที่มาเลเซีย รวมทั้งลุงของตนเอง และยังคุมขังนักโทษอีกราว 80,000 - 120,000 คน" นักวิเคราะห์ผู้นี้ระบุ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางเข้าพบ นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ในวันเดียวกับที่เดินทางมาถึง ก่อนจะเตรียมเข้าร่วมการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 12 มิ.ย. นี้
ทุกการก้าวย่างและความเคลื่อนไหวของผู้นำเกาหลีเหนือ ต่างมีกองทัพนักข่าวกว่า 3,000 ชีวิต ติดตามทำข่าวในการประชุมครั้งสำคัญนี้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งผู้คนจากทั่วโลกที่ให้ความสนใจที่จะเห็นการจับมือครั้งสำคัญของสองผู้นำเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสนใจและติดตามอย่างมากจากทั่วโลก หลังจากผู้นำคิม หันมาใช้แนวทางทางการทูตในช่วงหลายเดือนก่อน เกี่ยวกับการทดสอบอาวุธขีปนาวุธและการทดสอบนิวเคีลร์ของเกาหลีเหนือ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยทำให้เกิดความหวาดผวาว่าจะเกิดสงครามมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา