ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธประเมินตัวเลขค่าใช้จ่ายในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 20,000 ล้านดอลลาร์ และอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี
การประเมินตัวเลขดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดระหว่าง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับผู้นำคิม จอง อึน ที่สิงคโปร์ ในวันที่ 12 มิ.ย. นี้
ประเมินว่าปัจจุบันเกาหลีเหนือมีหัวรบนิวเคลียร์ราว 20 - 80 ลูก และจรวดขีปนาวุธอีกหลายพันลูกที่สามารถยิงจากยานพาหนะเคลื่อนที่ได้ รวมทั้งเรือดำน้ำติดเครื่องยิงจรวด
รายงานวิจัยที่จัดทำโดย ศาสตราจารย์ กวอน ฮุก-ชุล แห่งมหาวิทยาลัย Kookmin ได้รวบรวมข้อมูลจากข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในอดีต และวิเคราะห์จากโครงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของยูเครนเมื่อคราวที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย ในทศวรรษ 1990
รายงานสรุปว่า จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายราว 5,000 ล้านดอลลาร์ ในการรื้อถอนโรงงานนิวเคลียร์และเตาปฏิกรณ์ปรมาณูทั้งหมดของเกาหลีเหนือ และอีก 5,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับการ่กอสร้างเตาปฏิกรณ์แห่งใหม่สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าขึ้นมาแทน
นอกจากนั้น อีก 10,000 ล้านดอลลาร์จะถูกใช้ไปเพื่อความช่วยเหลือและแรงจูงใจทางเศรษฐกิจแก่ผู้นำและประชาชนเกาหลีเหนือ เพื่อให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ดังกล่าว รวมทั้งสร้างงานใหม่ให้กับคนงานที่โรงงานนิวเคลีบร์ต่างๆ รวม 3,000 - 10,000 คน
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่เป็นผู้จัดหาความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่เกาหลีเหนือเพื่อให้ปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่เสนอว่าอาจอนุญาตให้มีการลงทุนโดยบริษัทเอกชนอเมริกันแทน นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ ยังแนะนำให้เกาหลีเหนือของความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากประเทศเพื่อนบ้าน คือ เกาหลีใต้ และจีนด้วย
ขณะเดียวกัน รายงานวิจัยของอาจารย์วิกฟรีด เฮคเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์แห่งมหาวิทยาลัย Stanford ระบุว่า อาจต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี ในการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออย่างถาวร ซึ่งประกอบด้วยการหยุดการทำงานของเตาปฏิกรณ์ปรมาณูในปีแรก รื้อถอนโรงงานนิวเคลียร์ทั้งหมดใน 5 ปี และยุติโครงการนิวเคลียร์อย่างถาวรใน 10 ปี