'ธนาคารน้ำนมแม่' รับบริจาคน้ำนมลดการเสียชีวิตของทารกในเคนย่า

FILE - A lab technician at the Mothers' Milk Bank of New England in Newtonville, Mass., pours donated breast milk into another flask to prepare for pasteurization. Kenya will soon be getting Africa's second bank for donated breast milk.

เคนยาเป็นชาติที่สองในแอฟริกาที่ตั้งธนาคารน้ำนมแม่บริจาคแก่ทารกกำพร้า

Your browser doesn’t support HTML5

เคนยาเป็นชาติที่สองในแอฟริกาที่ตั้งธนาคารน้ำนมมารดาบริจาคแก่ทารกกำพร้า

เเมรี่ มวานจา ภรรยาของโจชัว อกูมู เสียชีวิตระหว่างการคลอดลูกเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ที่โรงพยาบาลเเม่เเละเด็กพูมวานี (Pumwani MaternityHospital) แต่ลูกสาวของทั้งสองรอดชีวิต

ตอนที่อกูมูไปรับตัวลูกสาวแรกเกิดที่ศูนย์เด็กอ่อนของโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้าน เขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก และตกใจกับการจากไปของภรรยา และเขายังไม่มั่นใจนักว่าจะป้อนนมลูกอย่างไร

เมื่อกลับไปถึงบ้าน เขาเริ่มป้อนนมลูกด้วยนมสำเร็จรูปที่เรียกว่า Tuzo ซึ่งในตอนนั้นนม Tuzo ยังไม่ได้ผสมสำเร็จเเล้วอย่างทุกวันนี้ แต่เขาไม่มีทางเลือก เขาบอกว่าหากภรรยาของเขาไม่เสียชีวิต เธอคงจะเลี้ยงทารกด้วยน้ำนมตนเองซึ่งดีต่อสุขภาพทารกมากกว่านมสำเร็จรูป

มาถึงตอนนี้ สำหรับพ่อหม้ายชาวเคนยาอีกหลายๆ คน อีกไม่นานพวกเขาจะมีทางเลือกอีกทางหนึ่ง นั่นก็คือธนาคารรับบริจาคน้ำนมมารดา

Plans are underway to bring a human milk bank to Nairobi as a joint effort between the Kenya Ministry of Health and PATH. The bank will be housed in Pumwani Maternity Hospital. (R. Ombuor/VOA)

โรงพยาบาลแม่เเละเด็กพูมวานีที่ไนโรบี กำลังก่อตั้งธนาคารน้ำนมมารดาบริจาคแห่งแรกสำหรับเคนยา ถือเป็นชาติที่สองในทวีปแอฟริกาที่เปิดธนาคารน้ำนมมารดาบริจาคตามหลังแอฟริกาใต้

โครงการนี้ริเริ่มโดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขของเคนยากับองค์กร PATH หน่วยงานด้านสาธารณสุขไม่หวังผลกำไรที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ

ธนาคารน้ำนมมารดาจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายนนี้ เพื่อรับบริจาคน้ำนมมารดา เเละมอบน้ำนมมารดาตามใบสั่งแพทย์ฟรีให้แก่ทารกที่ไม่ได้รับนมแม่

แพทย์หญิงอลิซเบ็ธ คีมานี มูเรจ ผู้อำนวยการฝ่ายสุขภาพของเเม่เเละเด็กที่ศูนย์วิจัยด้านประชากรเละสุขภาพแห่งแอฟริกัน (African Population and Health Research Center) เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังโครงการธนาคารน้ำนมมารดาบริจาคนี้

แพทย์หญิงมูเรจ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้เเนะนำว่าหากทารกไม่ได้รับน้ำนมเเม่ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ทางเลือกต่อไปที่ดีที่สุดคือน้ำนมบริจาค ดังนั้นจึงเป็นทางออกที่ดีในการจัดหาน้ำนมมารดาบริจาคให้แก่ทารกที่ขาดแคลนน้ำนมแม่

ธนาคารน้ำนมแม่บริจาคนี้มุ่งช่วยเหลือทารกที่กำพร้าแม่เเละขาดอาหาร ให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นเพื่อให้เจริญเติบโตและมีสุขภาพเเข็งเเรง

ด็อกเตอร์มูเรจ กล่าวว่า น้ำนมมารดามีความสำคัญอย่างมากต่อการอยู่รอดของทารกในช่วงไม่กี่เดือนแรกหลังลืมตาดูโลก

เธอกล่าวว่า ถึงเเม้ว่าอัตราการเสียชีวิตของทารกจะดีขึ้น การเสียชีวิตของเด็กอ่อนก่อนอายุครบ 28 วันยังลดลงในอัตราที่ช้ามากอยู่ ดังนั้นทารกกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายที่ทางธนาคารน้ำนมแม่บริจาค

และตามเป้าหมายของทางโครงการ คาดว่าน่าจะช่วยลดการเสียชีวิตของทารกก่อนอายุครบ 28 วัน ลงมาให้อยู่ที่ 12 รายต่อ 1,000 คน จากอัตราในขณะนี้ที่ 22 คนต่อพันคน

อย่างไรก็ตาม คนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับน้ำนมมารดาบริจาค โดยคนยังกังวลกันถึงเรื่องความสะอาดและโรคที่อาจติดต่อสู่ทารกจากผู้บริจาคน้ำนม แต่ด็อกเตอร์มูเรจย้ำว่า ผู้บริจาคน้ำนมแม่ทุกคนจะได้รับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เเละน้ำนมจะผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนหรือพาสเจอไรซ์ เพื่อรับประกันว่าทารกได้รับน้ำนมแม่ที่มีคุณภาพและปลอดภัย



(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)