ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เร่งขจัดปัญหาด้านการเกษตรและตลาดรถยนต์เพื่อผลักดัน TPP ลุล่วงในอีกสองเดือน

FILE - U.S. Trade Representative Michael Froman (R) speaks with Japan's Economics Minister Akira Amari as they take their seats before a news conference with other pacific rim ministers to conclude the Trans-Pacific Partnership (TPP) Ministerial meeting i

หลายประเทศรวมทั้งเกาหลีใต้กับจีน อาจเข้าร่วมในข้อตกลงการค้า Trans-Pacific Partnership หรือ TPP รอบสอง

Your browser doesn’t support HTML5

Japan US TPP


เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่นครนิวยอร์ค เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นร่วมประชุมเพื่อหาทางออกเรื่องการจัดทำข้อตกลงการค้า Trans-Pacific Partnership หรือ TPP ที่ยังค้างคาเพราะความเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นใหญ่ๆ สองเรื่องระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น คือตลาดผลผลิตทางการเกษตรและตลาดรถยนต์

สหรัฐฯและญี่ปุ่นคือสองประเทศที่เป็นผู้นำในการผลักดันข้อตกลงเปิดเสรีการค้า Trans-Pacific Partnership หรือ TPP ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในแถบเอเชียแปซิฟิก ที่มีมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันราว 40% ของเศรษฐกิจโลก โดยขณะนี้มี 12 ประเทศที่ตกลงเข้าร่วมในข้อตกลงนี้ คือนอกจากสหรัฐฯและญีปุ่นแล้ว ยังมีออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม

คุณ Deborah Elms แห่ง Asia Trade Center ผู้ติดตามการเจรจาข้อตกลงนี้อย่างใกล้ชิด เชื่อว่าสหรัฐฯกับญี่ปุ่นจะสามารถตกลงกันได้เร็วๆ นี้ ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีของประเทศสมาชิก TPP ในเดือนมีนาคมและเชื่อว่าน่าจะมีการตกลงขั้นสุดท้ายได้ในเดือนมีนาคมด้วย

นสพ.ญี่ปุ่น Nihon Keizai Shimbun รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจเห็นชอบให้มีการเพิ่มโควต้าข้าวปลอดภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ อีกหลายหมื่นตัน ซึ่งถือเป็นชัยชนะสำคัญของเกษตรกรอเมริกัน แต่ทางสหรัฐฯ ก็อาจต้องแลกด้วยการยอมลดข้อเรียกร้องที่ต้องการให้เพิ่มโควต้าการนำเข้ารถยนต์อเมริกัน

ในการรณรงค์หาเสียงให้ลูกพรรคครั้งล่าสุด นายกฯญี่ปุ่น Shinzo Abe สัญญากับเกษตรกรญี่ปุ่นว่า ตนจะเจรจากับอเมริกาโดยที่ไม่ให้เกษตรกรญี่ปุ่นต้องเสียประโยชน์ แต่ต่อมาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อในอังกฤษว่า ตนจะพยายามเอาชนะเสียงต่อต้านจากเกษตรกรในญี่ปุ่นให้ได้

คุณ Deborah Elms แห่ง Asia Trade Center ชี้ว่าข้อตกลง TPP ครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมต่างๆที่กว้างขวางหลากหลายกว่าข้อตกลงการค้าทุกฉบับที่เคยมีมา และว่าทุกภาคธุรกิจในประเทศที่เข้าร่วมกับ TPP จะได้รับผลกระทบจากข้อตกลงนี้ไม่มากก็น้อย

นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่าธุรกิจต่างๆ ในหมู่ประเทศสมาชิก จะเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อฉวยประโยชน์จาก TPP ขณะที่ประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมจะเสียประโยชน์มากมายเช่นกัน ทำให้หลายประเทศกำลังรอเข้าร่วมในรอบที่สอง รวมทั้งเกาหลีใต้ และอาจรวมถึงจีน

คุณ Chris Nelson นักวิเคราะห์แห่ง Samuels International Associates ระบุว่าเกาหลีใต้ได้ตัดสินใจแล้วว่า หากญี่ปุ่นประสบความสำเร็จจากข้อตกลง TPP เกาหลีใต้ก็จะเข้าร่วมเช่นกัน ถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะเกาหลีใต้เป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ส่วนจีนก็กำลังลังเลว่าจะเข้าร่วมในการเรจารอบต่อไปที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหรือไม่

อย่างไรก็ตาม องค์กรตรวจสอบหลายองค์กรในแถบเอเชียแปซิฟิก แสดงความกังวลต่อการร่างข้อตกลง TPP ว่ายังขาดความโปร่งใสเท่าที่ควร เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญและผลกระทบของข้อตกลงนี้ที่มีต่อธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเครื่องมือที่จะช่วยชี้วัดได้ว่า Trans-Pacific Partnership จะมีผลต่อคนงานและผู้บริโภคในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกอย่างไร

รายงานจากผู้สื่อข่าว Steve Herman / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล