Your browser doesn’t support HTML5
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ที่กรุงวอชิงตันในวันศุกร์นี้
ทั้งคู่ได้พบกันก่อนหน้านี้เมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ในครั้งนั้นความชื่นชอบในกีฬากอล์ฟของทั้งคู่ดูเหมือนว่าเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ โดยนายกรัฐมนตรีอาเบะ มอบไม้กอล์ฟราคาแพงเป็นของขวัญให้กับทรัมป์
และครั้งนี้ทั้งคู่จะลงไปเล่นกอล์ฟกันด้วยในวันเสาร์ สำนักข่าวรอยเตอร์สคาดว่าผู้นำทั้งสองจะไปดวลวงสวิงกันที่สนาม Trump International Golf Club ที่เมืองปาล์มบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ใกล้รีสอร์ท Mar-a-Lago ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
หากเป็นเช่นนั้นจริง ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่าอาจเกิดประเด็นเรื่องความเหมาะสมและการทับซ้อนของธุรกิจครอบครัวทรัมป์กับภารกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามอาจารย์ เจมส์ บราวน์ จาก Temple University ในประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระดับส่วนบุคคลในบรรยากาศเป็นกันเอง เป็นส่วนสำคัญในการเจรจากันของผู้นำสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
ในการพบกันครั้งนี้ น่าจะมีการพดคุยกันในหัวข้อการค้าเสรี นโยบายการเงิน และความมั่นคง
โดยผู้นำญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยแผนลงทุน 150,000 ล้านดอลลาร์ในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานสหรัฐฯ ซึ่งน่าจะเกิดการจ้างงาน 700,000 ตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้บรรยากาศความเป็นมิตรกันของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากการหาเสียงเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เขากล่าวว่าญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่บิดเบือนค่าเงินเยนให้อ่อนค่ากว่าปกติเพื่อเอื้ออำนวยการส่งออก
ญี่ปุ่นได้ดุลการค้าต่อสหรัฐฯ 6.8 ล้านล้านเยนเมื่อปีที่แล้ว ลดลงเกือบร้อยละ 5 จากปีก่อน
อาจารย์บราวน์กล่าวว่า ในสายตาของโดนัลด์ ทรัมป์ การค้าเป็นเรื่องการชิงความได้เปรียบ มากกว่าการมีผลประโยชน์ร่วมกันที่ทั้งสองประเทศสามารถเป็นฝ่ายได้ทั้งคู่
นอกจากนั้นทรัมป์เคยเรียกร้องให้รัฐบาลกรุงโตเกียวรับภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นจากการที่สหรัฐฯ มีฐานทัพในญี่ปุ่น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พลเอกเจมส์ แม็ททิส เยือนญี่ปุ่น ซึ่งน่าจะเป็นการส่งสัญญาณที่มีมาต่อเนื่องตั้งแต่รัฐบาลก่อนๆ ว่าอเมริกาจะคอยดูแลเสถียรภาพและความมั่นคงให้กับญี่ปุ่น
ปัจจุบันสหรัฐฯ มีทหารประจำการในญี่ปุ่น 54,000 คน พร้อมด้วยอาวุธนิวเคลียร์
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่าในการพบกันครั้งนี้ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และนายกรัฐมนตรีอาเบะ ก็น่าจะส่งสัญญาณแบบเดียวกับการเยือนญี่ปุ่นของ พลเอกเจมส์ แม็ททิส
อย่างไรก็ตาม แกรนท์ นิวส์แฮม นักวิเคราะห์จาก Japan Forum for Strategic Studies ที่กรุงโตเกียว กล่าวว่าผู้นำญี่ปุ่นไม่น่าจะเตรียมจ่ายเงินให้กับสหรัฐฯ เพิ่มสำหรับการมีกองทัพในญี่ปุ่น
เขากล่าวว่าที่นายกรัฐมนตรีอาเบะน่าจะทำมากกว่า คือแสดงความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มงบประมาณสำหรับกองทัพป้องกันตนเองของญี่ปุ่นหรือ JSDF (Japan Self-Defense Forces)
(รายงานโดย Steve Herman / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)