กองทัพอิสราเอลเปิดเผยในวันอังคารว่า สามารถยึดจุดผ่านแดนเมืองราฟาห์ทางฝั่งกาซ่าซึ่งติดกับพรมแดนอียิปต์เอาไว้ได้แล้ว หนึ่งวันหลังจากที่มีคำสั่งให้ชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนอพยพออกจากพื้นที่ก่อนระดมโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
ปฏิบัติการทางทหารครั้งล่าสุดของอิสราเอลเกิดขึ้นหลังจากที่บรรดาผู้นำอิสราเอลยืนยันว่า จำเป็นต้องบุกเมืองราฟาห์เพื่อบรรลุตามเป้าหมายการกำจัดกลุ่มฮามาส ในขณะที่สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และสหประชาชาติ ต่างเตือนถึงหายนะด้านมนุษยธรรมที่จะเกิดขึ้น จากการโจมตีใส่พื้นที่ในเมืองราฟาห์ที่มีผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
โจเซพ บอร์เรลล์ หัวหน้าด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป แสดงความกังวลว่าปฏิบัติการของอิสราเอลจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจำนวนมากในกาซ่า และว่า "ไม่มีพื้นที่ไหนปลอดภัยในกาซ่า"
เยนส์ เลิร์ก โฆษกสำนักงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็น กล่าวว่า อิสราเอลได้ปิดจุดผ่านแดนสำคัญสองแห่ง คือ ราฟาห์และคาเร็มชาโลม ซึ่งใช้ขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในกาซ่า
ด้าน หลิน เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีกาซ่า และทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซ่า
Your browser doesn’t support HTML5
อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ระบุในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ปฏิบัติการในเมืองราฟาห์มีขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลัก ซึ่งรวมถึงการปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้
ในวันอังคาร เจ้าหน้าที่กลุ่มฮามาส โอซามา ฮัมดาน ได้เตือนว่าจะไม่มีข้อตกลงหยุดยิงใด ๆ เกิดขึ้นหากการรุกรานทางการทหารของอิสราเอลยังดำเนินอยู่ในเมืองราฟาห์ และว่าตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในมือของเนทันยาฮูแล้ว พร้อมย้ำด้วยว่า “ด่านราฟาห์เคยเป็นและจะยังคงเป็นจุดข้ามแดนอียิปต์-ปาเลสไตน์อย่างแท้จริงตลอดไป”
เมื่อวันจันทร์ กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ยืนยันการยอมรับข้อเสนอของรัฐบาลอียิปต์และกาตาร์หลังทีมเจรจาจากกรุงไคโรพยายามทำให้เกิดการพักการสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสชั่วคราว รวมทั้งเพื่อให้มีการปล่อยตัวประกันที่ยังคงถูกคุมขังในฉนวนกาซ่าด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ยืนยันว่าข้อเสนอหยุดยิงนั้น "ยังห่างไกลจากสิ่งที่อิสราเอลต้องการ" แต่อิสราเอลก็จะส่งผู้แทนไปร่วมการเจรจาที่กรุงไคโรต่อไป
ถึงกระนั้น ดูเหมือนการเจรจาดังกล่าวจะไม่กระทบต่อแผนของอิสราเอลในการเคลื่อนกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในกาซ่า โดยเนทันยาฮูกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ปฏิบัติการในราฟาห์นั้นจะเกิดขึ้นแน่นอนแม้จะมีหรือไม่มีข้อตกลงหยุดยิงก็ตาม
เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน โทรศัพท์ถึงนายกฯ เนทันยาฮู เน้นย้ำถึงจุดยืนของสหรัฐฯ เกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในราฟาห์ซึ่งต้องรวมถึงแผนอพยพประชาชนออกจากเมืองนี้ด้วย โดยเนทันยาฮูรับปากว่าจะเปิดจุดผ่านแดนคาเร็มชาโลมไว้เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถผ่านเข้าไปในกาซ่าได้ จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว
องค์การอนามัยโลกคาดว่า ขณะนี้มีประชาชนจากทั่วทุกพื้นที่ในกาซ่าลี้ภัยอยู่ในเมืองราฟาห์ราว 1.2 ล้านคน
สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ สำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) โพสต์ข้อความทางสื่อสังคมออนไลน์ในวันจันทร์ มีเนื้อหาว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลในราฟาห์จะนำมาซึ่ง “ความทุกข์เข็ญและความตายของพลเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น” และผลลัพธ์ “ที่มีผลทำลายล้าง” ต่อผู้คนกว่า 1 ล้านคนที่หลบภัยอยู่ในเมืองนี้
ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสในกาซ่าบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารประชาชนไปราว 1,200 คน และจับตัวประกันมากกว่า 250 คน ซึ่งทางอิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางทหารในกาซ่าซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 34,700 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 77,000 คน จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขในกาซ่า
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์