อิสราเอลเรียกร้องในวันอังคารให้เพิ่มมาตรการลงโทษชุดใหม่ต่ออิหร่าน เพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กล่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้ติดต่อไปยังประเทศต่าง ๆ มากกว่า 30 ประเทศให้ใช้มาตรการลงโทษต่อโครงการขีปนาวุธอิหร่าน รวมทั้งประกาศให้องค์กรพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน หรือ IRGC (Iran’s Revolutionary Guard Corps) เป็นองค์การก่อการร้าย
สหรัฐฯ คือหนึ่งในหลายประเทศที่ระบุให้ IRGC เป็นกลุ่มก่อการร้าย และตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว รัฐบาลกรุงวอชิงตันได้ใช้มาตรการลงโทษหลายชุดต่อโครงการขีปนาวุธของอิหร่าน
ขณะเดียวกัน ดูเหมือนอิสราเอลกำลังพิจารณาการโจมตีตอบโต้อิหร่านด้วยวิธีการเดียวกัน แม้บรรดาผู้นำโลกต่างร้องขอให้หลีกเลี่ยงการยกระดับความรุนแรงของสถานการณ์นี้ก็ตาม
โดยผู้บัญชาการทหารระดับสูงของอิสราเอลกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า อิหร่านจะต้องชดใช้ในการโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธกว่า 300 ครั้งเมื่อวันเสาร์ แต่ยังมิได้ระบุว่าการตอบโต้ดังกล่าวจะเป็นไปในรูปแบบใดและจะเกิดขึ้นเมื่อใด
Your browser doesn’t support HTML5
ท่าทีของสหรัฐฯ
จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า "โครงการขีปนาวุธที่อิหร่านโอ้อวดและใช้ข่มขู่อิสราเอลกับประเทศอื่นในภูมิภาคนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไร้ประสิทธิภาพอย่างยิ่ง" "ขณะที่การป้องกันตนเองของอิสราเอลกลับแสดงให้เห็นแล้วว่าดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้"
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในวันจันทร์ว่า รัฐมนตรีกลาโหม ลอยด์ ออสติน ได้หารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โยอาฟ กัลแลนต์ และได้เน้นย้ำความสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อกองทัพอิสราเอล รวมทั้งยืนยันเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ในการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า การโจมตีของอิหร่านใส่อิสราเอลเมื่อวันเสาร์ ประกอบด้วยขีปนาวุธวิถีโค้งกว่า 110 ลูก ชีปนาวุธร่อน 30 ลูก และโดรนติดระเบิดกว่า 150 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกปล่อยไปจากดินแดนของอิหร่าน และมีบางส่วนที่ไปจากพื้นที่ครอบครองของกลุ่มติดอาวุธที่มีอิหร่านหนุนหลัง ในอิรัก ซีเรีย และเยเมน
Your browser doesn’t support HTML5
การโจมตีเชิงสัญลักษณ์
เจ้าหน้าที่บางคนในตุรกี จอร์แดน และอิรัก กล่าวในวันอาทิตย์ว่า อิหร่านได้ส่งคำเตือนถึงประเทศเหล่านั้นก่อนที่จะเริ่มการโจมตีใส่อิสราเอลเมื่อวันเสาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตของประชาชน และป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งยกระดับรุนแรงขึ้น
แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านปฏิเสธคำกล่าวอ้างนั้น และยืนยันว่าไม่มีการจัดการล่วงหน้าใด ๆ ระหว่างอิหร่านกับประเทศอื่น ก่อนการโจมตีจะเร่ิมขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคนต่างปฏิเสธรายงานที่ว่า การโจมตีของอิหร่านเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ และคาดหมายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะประสบความล้มเหลว
โฆษกเคอร์บี กล่าวว่า คำกล่าวอ้างเรื่องนี้ไม่มีมูลความจริง และว่า "เมื่อพิจารณาถึงขนาดของการโจมตี เห็นได้ชัดว่าอิหร่านต้องการให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เป้าหมายของอิหร่านคือการส่ง (ขีปนาวุธและโดรน) ผ่านระบบป้องกันตนเองของอิสราเอลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพีและรอยเตอร์