กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF กล่าวในวันอังคารว่า สงครามการค้าระหว่าง จีน-สหรัฐฯ ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงในปีนี้และปีหน้า
IMF เผยรายงานการประเมินเศรษฐกิจโลก ระหว่างการประชุมที่เกาะบาหลี อินโดนีเซีย ในสัปดาห์นี้ว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในขณะนี้ จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกมีความเปราะบางยิ่งขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวในระดับ 3.7% ในปีนี้และปีหน้า ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ 0.2%
FILE - U.S. President Donald Trump, right, chats with Chinese President Xi Jinping during a welcome ceremony at the Great Hall of the People in Beijing, Nov. 9, 2017.
สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ IMF คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.9% ในปีนี้ และ 2.5% ในปีหน้า และจะลดลงไปอยู่ที่ 1.8% ในปี ค.ศ. 2020 ซึ่งเป็นผลจากสงครามการค้าและนโยบายลดอัตราภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว สหรัฐฯ กำหนดภาษีชุดใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็เร่ิมมาตรการตอบโต้ด้านภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ ในวันเดียวกัน
ภาษีชุดใหม่ของสหรัฐฯ ครอบคลุมถึงสินค้าหลายพันชนิดของจีน รวมถึง สินค้าอิเลกทรอนิกส์ อาหาร เครื่องมือและเครื่องใช้ภายในบ้านต่างๆ โดยเริ่มจากระดับอัตราภาษีที่ 10% ก่อนที่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 25% ในวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้เก็บภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มไปแล้วเป็นมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ ในมูลค่าที่เท่าเทียมกัน
และเมื่อต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ขู่ว่าจะเก็บภาษีต่อสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 267,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะครอบคลุมถึงสินค้าทุกประเภทที่จีนส่งมาขายในตลาดอเมริกา