ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ว่า ข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก ถือเป็น "ข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ที่สุด" ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยปกป้องตำแหน่งงานของคนอเมริกัน และว่านี่เป็นข้อตกลงที่ดีต่อทุกฝ่าย ที่จะช่วยแก้ไขความผิดพลาดในข้อตกลง NAFTA
เจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯ และแคนาดา สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ได้ก่อนเวลาเที่ยงคืนตรงของเมื่อคืนวันอาทิตย์ ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายสุดท้ายของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดา ซึ่งมีผลให้ข้อตกลงการค้าแถบอเมริกาเหนือฉบับใหม่นี้มีทั้งสามประเทศเข้าร่วม และจะนำมาใช้แทนข้อตกลง NAFTA ที่มีอายุเกือบ 25 ปี
สำหรับข้อตกลงใหม่นี้จะใช้ชื่อว่า U.S.-Mexico-Canada Agreement (USMCA) ซึ่งมีมูลค่าการค้าราว 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี โดยคาดว่าผู้นำทั้งสามประเทศจะร่วมลงนามในอีก 60 วันจากนี้
ตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้วิจารณ์ข้อตกลงการค้าเสรีแถบอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ว่าเป็นข้อตกลงการค้าที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากต้องตกงาน ตั้งแต่เริ่มนำมาใช้เมื่อปี ค.ศ. 1994 พร้อมสัญญาว่าจะยกเลิกข้อตกลงนี้
ภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่ สินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ จะสามารถเข้าไปยังตลาดแคนาดาได้มากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากนม ในขณะที่แคนาดาจะได้รับการยกเว้นจากการขึ้นภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จากสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม มาตรการขึ้นภาษีเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ จะยังคงมีผลบังคับใช้กับแคนาดาต่อไป ซึ่งจะมีการเจรจาเรื่องนี้แยกต่างหาก อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ
ด้านนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด กล่าวยกย่องการเจรจาการค้าที่ลุล่วงในนาทีสุดท้ายก่อนเที่ยงคืนเมื่อคืนนี้ว่า "เป็นวันที่ดีของแคนาดา" หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ขู่ว่าจะเดินหน้าจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่กับเม็กซิโก โดยที่ไม่มีแคนาดาเข้าร่วม ซึ่งจะมีผลให้แคนาดาต้องจ่ายภาษีอัตราสูงสำหรับรถยนต์ที่ส่งออกมายังสหรัฐฯ และเม็กซิโก
ในขณะที่ นายกรัฐมนตรีทรูโด เผชิญแรงกดดันจากทั้งภาคการเมืองและภาคธุรกิจในแคนาดาเอง ให้เร่งบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีแถบอเมริกาเหนือฉบับใหม่ กับสหรัฐฯ และเม็กซิโก