IMF เตือนแบงค์ชาติทั่วโลกระวังดอกเบี้ยพุ่ง หลังสหรัฐฯ ออกกฎหมายช่วยโควิดมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์

International Monetary Fund logo is seen outside the headquarters building during the IMF/World Bank spring meeting in Washington, U.S., April 20, 2018. REUTERS/Yuri Gripas - RC13CB8CD000

Your browser doesn’t support HTML5

ฺBusiness News


กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนธนาคารกลางทั่วโลกให้ระวังว่า อัตราดอกเบี้ยในประเทศของตนจะพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีการควบคุมธุรกิจการเงินที่เข้มงวดขึ้น อันเป็นผลมาจากการที่สหรัฐฯ ออกแผนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์

สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า เจอร์รี ไรซ์ โฆษกของ IMF กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ทางกองทุนฯ คาดการณ์ว่า กฎหมายแผนช่วยเหลือชาวอเมริกัน (American Rescue Plan Act) ที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามให้มีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดี จะช่วยกระตุ้นจีดีพีของสหรัฐฯ เพิ่ม 5%-6% ในช่วง 3 ปีจากนี้ แต่ต้นทุนการระดมทุนเงินสกุลดอลลาร์ที่อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษในเวลานี้ อาจหมายถึงความเสี่ยงที่จะเกิดการยกระดับการควบคุมธุรกิจการเงินอย่างกะทันหัน ซึ่ง “เป็นเรื่องที่ต้องมีการจัดการด้วยความระมัดระวัง”

ไรซ์กล่าวด้วยว่า ทั้งระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางในประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย ควรจะต้องมีการสื่อสารให้ชัดเจนอย่างต่อเนื่อง ขณะทำการประเมินสภาพเศรษฐกิจของตน เพื่อไม่ให้เกิดการคุมเข้มธุรกิจการเงินโดยไม่จำเป็น

ท่าทีของ IMF นี้ มีออกมาขณะที่ ตลาดการเงินทั่วโลกกำลังกังวลเกี่ยวกับผลตอบแทนการลงทุนในพันธบัตรที่กำลังเพิ่มขึ้นอยู่ในเวลานี้ ซึ่งอาจทำให้กระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจล่าช้าลงได้

ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยในวันพฤหัสบดีเช่นกันว่า อาจจะทำการเร่งซื้อคืนพันธบัตรของตน เพื่อหยุดยั้งการปรับขึ้นที่ไม่จำเป็นของต้นทุนการกู้ยืมที่อาจเกิดขึ้นจากนี้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ Fed ส่งสัญญาณออกมาว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่มีแผนที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่มีการผ่อนคลายอย่างมากไปอีกระยะหนึ่ง

โฆษกของ IMF กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย โดยเฉพาะประเทศที่มีความเสี่ยงทางการเงินและมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่ไม่ค่อยดี ควรเตรียมแผนนโยบายสำรองได้แล้ว