สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency – IAEA) แสดงความกังวลครั้งใหม่ว่า โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริซห์เชียของยูเครนที่รัสเซียยึดครองอยู่ รวมทั้งพื้นที่รอบ ๆ กำลังเผชิญความเสี่ยงของมหันตภัยที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่
ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ออกแถลงการณ์ในวันเสาร์ที่ระบุว่า สถานการณ์รอบ ๆ โรงไฟฟ้าซาปอริซห์เชียนั้นกำลังอยู่ในภาวะ “มีความเสี่ยงของอันตรายและคาดการณ์ได้ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ” แล้ว และว่า “พื้นที่เมืองเอเนอร์โฮดาร์ที่อยู่ใกล้ ๆ” ซึ่งเป็นที่ ๆ เจ้าหน้าที่โรงงานส่วนใหญ่อาศัย กำลังอยู่ในกระบวนการอพยพอยู่ แม้ว่า เจ้าหน้าที่ในส่วนการปฏิบัติงานของโรงงานจะยังคงทำงานในโรงไฟฟ้าแห่งนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญของ IAEA ที่ประจำอยู่ที่โรงไฟฟ้านี้ ยังไม่สามารถเดินทางไปเยือนเมืองเอเนอร์โฮดาร์ในช่วงที่ผ่านมาได้ และ กรอสซี กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญนั้น “ยังคงได้ยินเสียงยิงปืนใหญ่อยู่เป็นประจำ”
แถลงการณ์ของ IAEA ระบุว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของยูเครน “มีเจ้าหน้าที่กองทัพและกิจกรรมทางทหารเพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้” ด้วย
ผู้อำนวยการใหญ่ IAEA กล่าวว่า ตน “มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความเสี่ยงของจริงด้านความปลอดภัยและความมั่นคงนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านี้” และว่า “เราต้องลงมือทำการเดี๋ยวนี้เพื่อป้องกันภัยคุกคามของอุบัติเหตุนิวเคลียร์อันรุนแรง และผลกระทบอื่น ๆ ที่จะตามมาและจะเกิดกับประชากรและสิ่งแวดล้อม ... โรงงานนิวเคลียร์หลักนี้ต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง”
ทางการยูเครนรายงานว่า รัสเซียเพิ่งยิงปืนใหญ่กว่า 30 นัดเข้าใส่เมืองนิโคโปล ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับโรงไฟฟ้าและยังอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนในวันอาทิตย์ ซึ่งส่งผลให้สตรีวัย 72 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี