หนึ่งวันหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อห้ามบริษัทอเมริกันใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมของบริษัทที่อาจสร้างความเสี่ยงด้านความมั่นคงให้กับสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีของบริษัทหัวเหว่ย ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน
วันนี้ทางบริษัทหัวเหว่ยได้ออกมาเตือนว่า มาตรการล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ จะเป็นผลเสียต่อบริษัทอเมริกันที่ทำธุรกิจอยู่กับหัวเหว่ย และจะทำให้มีแรงงานอเมริกันตกงานจำนวนหลายหมื่นคน แต่ทางหัวเหว่ยนั้นจะสามารถหาทางหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่า อุปกรณ์ของบริษัทหัวเหว่ยถูกนำมาใช้ในการสอดแนมและลักลอบเก็บข้อมูลความลับต่างๆ ของบริษัทอเมริกัน ดังนั้น คาดว่าคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับล่าสุดที่เป็นการประกาศภาวะฉุกเฉินด้วยนั้น จะเป็นการนำไปสู่มาตรการคว่ำบาตรบริษัทโทรคมนาคมจีน โดยเฉพาะบริษัทหัวเหว่ย อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้สามารถเข้ามาแข่งขันติดตั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5G ในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ทางหัวเหว่ยได้พยายามหาทางกลบเสียงวิจารณ์และข้อกล่าวหาเรื่องนี้ ด้วยการให้สัญญาว่าจะเลิกทำธุรกิจทันทีหากถูกกดดันให้ต้องสอดแนมข้อมูลของลูกค้า
ที่ผ่านมา หัวเหว่ยได้ลงนามในข้อตกลงติดตั้งเครือข่าย 5G ใน 40 ประเทศทั่วโลก ในจำนวนนี้กว่า 20 ประเทศอยู่ในยุโรป
แต่ทางสหรัฐฯ ได้เคยระบุไว้ว่า ประเทศใดก็ตามที่เลือกทำสัญญาติดตั้งเครือข่าย 5G กับหัวเหว่ย อาจจะไม่มีสิทธิในการแชร์ข้อมูลข่าวกรองกับสหรัฐฯ