เทียบประวัติ โจ ไบเดน กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนอื่นๆ 

U.S. President-elect Joe Biden adjusts his face mask as he speaks about his plan to administer coronavirus disease vaccines to the U.S. population, during a news conference at Biden's transition headquarters in Wilmington, Del., Jan. 15, 2021.

ไม่ว่าจะเป็นคำกล่าวที่ถูกต้องหรือไม่ก็ตาม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มักถูกเปรียบเปรยว่าเป็น “ผู้นำโลกเสรี” และแน่นอนว่าผู้นำสหรัฐฯ คือผู้นำประเทศที่ทรงอำนาจที่สุดคนหนึ่งในโลก ในช่วง 232 ปีที่ผ่านมา ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมักเป็นชายผิวขาว นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์

วีโอเอชวนติดตามดูว่า โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะดำรงตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ จะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนก่อนๆ


U.S. President-elect Dwight D. Eisenhower prepares to depart South Korea on Dec. 4, 1952.


ประธานาธิบดี 31 คน มีปูมหลังด้านการทหาร ส่วน โจ ไบเดน ไม่เคยทำงานในกองทัพมาก่อน

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นทหารผ่านศึกมาก่อนรับตำแหน่ง โดยทั้งเคยอยู่ในกองทัพและกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมาก่อน อดีตประธานาธิบดีหลายคนเคยเป็นนายพลมาก่อน เช่น

- จอร์จ วอชิงตัน ผู้บังคับบัญชากองกำลังทหารเพื่อทำสงครามอิสรภาพในช่วงสงครามปฏิวัติ
- ยูลิสซีส เอส. แกรนต์ ผู้บังคับบัญชากองทัพฝ่ายสหภาพ (หรือสหรัฐฯ ในปัจจุบัน) ในช่วงสงครามกลางเมือง
- ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ผู้บังคับบัญชากองทัพบกสหรัฐฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

หลังช่วงสงครามกลางเมือง นายทหารผ่านศึกฝ่ายสหภาพที่ชนะสงครามหลายคนได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากนั้น การเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สองก็ทำให้สหรัฐฯ มีประธานาธิบดีเป็นทหารผ่านศึกอีกระลอกหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่ประธานาธิบดีเป็นทหารผ่านศึกได้สิ้นสุดลงในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ โดยประธานาธิบดีรุ่นหลังๆ ไม่เคยทำงานในกองทัพมาก่อน เช่น บิล คลินตัน, บารัค โอบามา, โดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน


FILE - In this Dec. 12, 1972 file photo Joe Biden, the newly-elected Democratic Senator from Delaware, speaks in Washington.


ประธานาธิบดี 26 คน รวมทั้งโจ ไบเดน เคยเป็น ส.ส. หรือ ส.ว.

การเป็นสมาชิกสภาคองเกรสถือเป็นอาชีพยอดนิยมของผู้ที่ต้องการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมาตั้งแต่ยุคของประธาธิบดีเจมส์ แมดิสัน หนึ่งในกลุ่มบิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐฯ มาจนถึงปัจจุบัน ประธานาธิบดีเกินครึ่งเคยทำงานในสภาคองเกรสมาก่อน ทั้งในสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือทั้งสองสภา มีวุฒิสมาชิก 17 คน รวมทั้งโจ ไบเดน ที่ได้เป็นประธานาธิบดี อย่างไรก็ตาม มีเพียงสามคนเท่านั้นที่เป็นวุฒิสมาชิกแล้วขยับไปเป็นประธานาธิบดีทันที ได้แก่ วาร์เรน จี. ฮาร์ดิง, จอห์น เอฟ. เคนเนดี และบารัค โอบามา และมีเพียงเจมส์ การ์ฟิลด์ เท่านั้นที่เป็นส.ส. อยู่และเลื่อนขั้นไปเป็นประธานาธิบดีทันที


โจ ไบเดน จะเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุดที่เข้ารับตำแหน่ง

กฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ผู้นำที่มีอายุน้อยที่สุดเริ่มรับตำแหน่งเมื่อพวกเขาอยู่ในช่วงวัย 40 ต้นๆ โดยพวกเขามักมีจุดเด่นในด้านความหนุ่ม ความมีเสน่ห์ และความสำเร็จทางการเมืองในขณะที่ยังมีอายุน้อย

ธีโอดอร์ โรสเวลต์ เป็นประธานาธิบดีที่มีอายุน้อยที่สุดขณะเข้ารับตำแหน่ง โดยขณะนั้นเขามีอายุ 42 ปี และเป็นที่รู้จักในฐานะคนหนุ่มนักผจญภัย ทางด้านจอห์น เอฟ. เคนเนดี ได้รับตำแหน่งขณะมีอายุ 43 ปี และเป็นที่รู้จักในภาพลักษณ์ “เจ้าชาย” จากครอบครัวทางการเมืองที่ทรงอิทธิพล

ประธานาธิบดีที่รับตำแหน่งเมื่อมีอายุมาก เช่น ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ และโรนัลด์ เรแกน มักเป็นที่จดจำในฐานะ “คุณปู่” ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้เข้ารับตำแหน่งในขณะนั้นที่อายุมากที่สุด โดยเขามีอายุ 70 ปีเมื่อรับตำแหน่งในปีค.ศ. 2017 โดยโจ ไบเดน จะกลายเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุดคนต่อไป เมื่อเขารับตำแหน่งในขณะที่มีอายุ 78 ปี

การเป็นผู้นำโลกเสรีทำให้ผู้นำสหรัฐฯ หลายคนที่เคยมีผมสีเข้มเมื่อครั้งเข้ารับดำรงตำแหน่ง กลายเป็นคนมีผมขาวทั้งศีรษะเมื่อหมดวาระดำรงตำแหน่งลง

President John Kennedy at Voice of America in 1962.

โจ ไบเดน จะเป็นประธานาธิบดีคนที่สอง ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก

รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ห้ามตั้งข้อกำหนดทางศาสนาของผู้รับตำแหน่งทางการเมือง แต่ถึงอย่างนั้น ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทุกคนต่างนับถือศาสนาคริสต์ และแทบทุกคนนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ โดยโจ ไบเดน จะเป็นประธานาธิบดีที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกคนที่สองต่อจาก จอห์น เอฟ. เคนเนดี

ยังไม่มีประธานาธิบดีคนไหนที่นับถือศาสนายิวหรือศาสนาอิสลาม และยังไม่มีใครที่ประกาศตนว่าไม่นับถือมีศาสนาใดๆ แม้จะมีผู้เห็นว่าทอมัส เจฟเฟอร์สัน, อับราฮัม ลินคอล์น และวิลเลียม ฮาวเวิร์ด แทฟต์ อาจเป็นผู้ไม่เชื่อในพระเจ้าหรือไม่นับถือศาสนาก็ตาม ทั้งนี้ หากเบอร์นีย์ แซนเดอร์ส สามารถเอาชนะโจ ไบเดน ในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีได้ เขาอาจได้เป็นประธานาธิบดีชาวยิวคนแรกของสหรัฐฯ


FILE - President Barack Obama and Vice President Joe Biden arrive for the Presidential Inauguration of Donald Trump at the U.S. Capitol in Washington.

ประธานาธิบดี 15 คน รวมทั้งโจ ไบเดน เคยเป็นรองประธานาธิบดีมาก่อน

จากรองประธานาธิบดี 15 คนที่ได้เป็นประธานาธิบดีนั้น มีแปดคนที่ได้รับตำแหน่งเพราะประธานาธิบดีเสียชีวิต และมีหนึ่งคน คือ เจอรัลด์ ฟอร์ด ที่ดำรงตำแหน่งหลังอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ลาออกจากตำแหน่ง

แม้การดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจะถูกมองว่าเป็นการปูทางไปสู่การชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในอนาคต แต่ก็มีรองประธานาธิบดีหลายคนที่คว้าตำแหน่งสูงสุดนี้ไม่ได้ เช่น อัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีของบิล คลินตัน และวอลเตอร์ มอนเดล อดีตรองประธานาธิบดีของจิมมี คาร์เตอร์

โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีของบารัค โอบามา เป็นอดีตรองประธานาธิบดีคนที่สองที่จะได้ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ หลังหมดวาระไปหนึ่งเทอม โดยก่อนหน้านี้ ริชาร์ด นิกสัน เป็นอดีตรองประธานาธิบดีของดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ เมื่อปีค.ศ. 1953-1961 แต่เพิ่งคว้าชัยตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ได้ในอีกเจ็ดปีถัดจากนั้น คือปีค.ศ. 1968


Thomas Jefferson

ประธานาธิบดีตัวสูงมักเป็นที่สะดุดตา

ประธานาธิบดีที่นับว่ามีบทบาทเด่นที่สุดอันดับต้นๆ ของสหรัฐฯ สามคน คือ จอร์จ วอชิงตัน, ทอมัส เจฟเฟอร์สัน และอับราฮัม ลินคอล์น ต่างอยู่ในกลุ่มประธานาธิบดีที่ตัวสูงที่สุด โดยลินคอล์นมีส่วนสูงที่สุดที่ 193 เซนติเมตร

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีที่มีส่วนสูงเตี้ยที่สุดก็อยู่ในกลุ่มบิดาผู้ก่อตั้งของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน เช่น เจมส์ แมดิสัน อดีตประธานาธิบดีคนที่สี่ที่เตี้ยที่สุด มีส่วนสูงที่ 163 เซนติเมตร และจอห์น อดัมส์ อดีตประธานาธิบดีคนที่สอง ที่มีส่วนสูงที่ 170 เซนติเมตร ทั้งนี้ ประธานาธิบดีรุ่นใหม่ๆ อยู่ในกลุ่มผู้นำสหรัฐฯ ที่ตัวสูงที่สุด รวมทั้ง โดนัลด์ ทรัมป์, บิล คลินตัน และ จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช

President Woodrow Wilson


ประธานาธิบดี 33 คน รวมทั้งโจ ไบเดน มีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำระดับปริญญาตรี

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่วนใหญ่มีระดับการศึกษาสูงกว่าคนทั่วไป โดยมีประธานาธิบดีเพียง 12 คนเท่านั้นที่ไม่มีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำระดับปริญญาตรี และประธานาธิบดีทุกคนนับตั้งแต่ปีค.ศ. 1953 ต่างมีวุฒิปริญญาตรี

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดสองคนกลับไม่มีวุฒิปริญญาตรี ได้แก่ จอร์จ วอชิงตัน และ อับราฮัม ลินคอล์น โดยวอชิงตันได้รับใบประกอบอาชีพพนักงานรังวัดจากวิทยาลัยวิลเลียมแอนด์แมรีในรัฐเวอร์จิเนีย แต่ไม่ได้รับปริญญาตรี ส่วนลินคอล์นไม่เคยเข้ารับการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย

วูดโรว์ วิลสัน เป็นประธานาธิบดีคนเดียวที่มีวุฒิปริญญาเอก และเคยเป็นประธานของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันก่อนรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดีหลายคนยังมีวุฒิด้านกฎหมาย รวมทั้ง โจ ไบเดน, บารัค โอบามา และบิล คลินตัน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีคนแรกๆ หลายคนก็เคยเรียนหรือทำงานด้านกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในเวลานั้น ประสบการณ์ทำงานเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเป็นนักกฎหมาย ไม่ใช่วุฒิด้านกฎหมายแต่อย่างใด

William Howard Taft

ประธานาธิบดี 27 คน รวมทั้งโจ ไบเดน เคยเป็นนักกฎหมาย

ข้อมูลจากเนติบัณฑิตยสภาอเมริกันระบุว่า มีประธานาธิบดี 27 คนที่เคยเป็นนักกฎหมาย โดยคนล่าสุดคือโจ ไบเดน โดยมีอดีตผู้นำสหรัฐฯ แปดคนที่เคยสู้คดีในศาลสูงสหรัฐฯ ในช่วงก่อนหรือหลังวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ได้แก่ จอห์น ควินซี อะดัมส์, เจมส์ โพล์ก, อับราฮัม ลินคอล์น, เจมส์ การ์ฟีลด์, โกรเวอร์ คลีฟแลนด์, วิลเลียม ฮาวเวิร์ด แทฟต์, เบนจามิน แฮร์ริสัน และ ริชาร์ด นิกสัน

ทั้งนี้ แทฟต์เป็นประธานาธิบดีคนเดียวที่เคยดำรงตำแหน่งในศาลสูงสหรัฐฯ โดยเขารับตำแหน่งดังกล่าวหลังหมดวาระประธานาธิบดีแล้ว อะดัมส์ก็ได้รับการเสนอชื่อและรับรองให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเช่นกัน แต่เขาปฏิเสธตำแหน่ง โดยระบุว่า เขาเป็นคนเลือกข้างมากเกินไปที่จะดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาได้



ประธานาธิบดี 9 คน ไว้หนวดเครา ตามกระแสในช่วงปลายคริสตศตวรรษที่ 19

ในช่วงปีค.ศ.1861 - ค.ศ.1909 ประธานาธิบดีส่วนใหญ่ไว้หนวดเคราในช่วงที่สหรัฐฯ ก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม สงครามกลางเมือง การเลิกทาส และบทบาทของสตรีที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้กระแสแฟชั่นของผู้ชายเริ่มเน้น “ความเป็นชาย” มากขึ้น ซึ่งการไว้หนวดเคราก็เป็นการแสดงพลังและอำนาจตามค่านิยมในสมัยนั้น

อับราฮัม ลินคอล์น เป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ไว้เครา มีเรื่องเล่าว่า เขาเริ่มไว้เคราในช่วงหาเสียงชิงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีเมื่อปีค.ศ. 1860 ตามคำแนะนำของเด็กหญิงวัย 11 ปีคนหนึ่ง ที่บอกเขาว่า รอยย่นบนหน้าผากของเขาอาจทำให้คนเลือกเขาน้อยลงได้ อย่างไรก็ตาม พอถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กระแสการไว้หนวดเคราก็เริ่มเสื่อมความนิยมลง เนื่องจากมีกระแสของชนชั้นพนักงานในสำนักงานเข้ามา ทำให้ผู้ชายต้องดูแลเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อยขึ้น และทำให้นักการเมืองทั้งหลายหันมาโกนหนวดเคราด้วยเช่นกัน


President-elect Joe Biden speaks about the COVID-19 pandemic during an event at The Queen theater, Thursday, Jan. 14, 2021, in Wilmington, Del. (AP Photo/Matt Slocum)



รัฐนิวยอร์ก มีประธานาธิบดีมากที่สุดที่ 7 คน โดย โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีคนแรกจากรัฐเดลาแวร์

ในช่วงประวัติศาสตร์ยุคแรกของสหรัฐฯ รัฐเวอร์จิเนียมีประธานาธิบดีมากที่สุด โดยประธานาธิบดีสี่คนจากห้าคนแรกของประเทศมาจากรัฐนี้ อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ รัฐนิวยอร์กมีประธานาธิบดีมากที่สุดที่เจ็ดคน รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตามมาด้วยรัฐโอไฮโอ ที่มีผู้นำสหรัฐฯที่หกคน โดยมีรัฐทั้งหมด 19 รัฐที่เป็นถิ่นของประธานาธิบดี โดยรัฐเดลาแวร์มีประธานาธิบดีครั้งแรกในยุคของโจ ไบเดน นี้เอง

ทั้งนี้ วิธีที่ใช้พิจารณาว่าประธานาธิบดีคนไหนมีถิ่นอยู่ที่รัฐไหนนั้นมีหลายวิธี ทั้งการนับจากรัฐที่เกิดหรือรัฐที่อยู่อาศัยนานที่สุด อย่างไรก็ตาม ในอินโฟกราฟฟิคนี้ วีโอเอนับจากรัฐที่ประธานาธิบดีคนนั้นเกี่ยวข้องด้วยมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น การนับไบเดนว่ามาจากรัฐเดลาแวร์ ซึ่งเป็นรัฐที่เขาเป็นตัวแทนในวุฒิสภาสหรัฐฯ มา 36 ปี ไม่ใช่รัฐเพนซิลเวเนียที่เป็นถิ่นกำเนิดของเขา