การปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ดำเนินมาถึงวันที่ 4 ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงในเร็ววันนี้ เมื่อการเจรจาระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับบรรดาผู้นำพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ ยังคงไม่มีความคืบหน้า
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันศุกร์ว่า ตนมีการประชุมที่มีความคืบหน้าอย่างมากกับบรรดาผู้นำในรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ทำเนียบขาว เพื่อหาทางออกเรื่องการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาล
แต่ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ แถลงต่อผู้สื่อข่าวหลังจากหารือร่วมกับ ปธน.ทรัมป์ว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่าจะปิดทำการหน่วยงานของรัฐบาลต่อไปอีกนานโดยไม่มีกำหนด "ซึ่งอาจเป็นเดือน หรือเป็นปี"
ขณะที่ ส.ส.แนนซี่ เพโลซี่ จากพรรคเดโมแครต ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ กล่าวว่า การเจรจากับ ปธน.ทรัมป์ ยังคงไม่ประสบผลสำเร็จ และประเด็นเรื่องบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก ที่ ปธน.ทรัมป์ ต้องการนั้น จะยังไม่สามารถคลี่คลายได้หากยังไม่มีการเปิดทำการหน่วยงานรัฐบาล
ด้าน ส.ว.มิทช์ แม็คคอนแนลล์ ผู้นำเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า จะมีการหารือกันอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหาข้อตกลงให้ได้
เมื่อวันพฤหัสบดี สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายเปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ อีกครั้ง ซึ่งไม่ได้รวมงบประมาณก่อสร้างกำแพงมูลค่า 5,600 ล้านดอลลาร์ตามที่ ปธน.ทรัมป์ ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ส.ส.เพโลซี่ ระบุว่า แผนดังกล่าวมีงบประมาณสำหรับมาตรการป้องกันตามแนวชายแดน การจัดจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่ม และการจัดซื้อเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการปกป้องชายแดนของสหรัฐฯ รวมอยู่ด้วย โดยวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายเดียวกันนี้เมื่อเดือนที่แล้ว
แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวผู้หนึ่งระบุว่า ปธน.ทรัมป์ ได้กล่าวกับบรรดาผู้นำเดโมแครตที่ร่วมประชุมในวันนี้ว่า ตนจะดูโง่เขลาทันที หากว่ายอมยุติการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ เคยกล่าวไว้ด้วยว่า ตนภูมิใจที่เป็นผู้ทำให้เกิดการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกจ้างของรัฐบาลอเมริกันราว 800,000 คนในปัจจุบัน
ปธน.ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ ยืนยันว่าตนเตรียมพร้อมแล้วหากต้องปิดทำการรัฐบาลไปเป็นเดือนๆ หรือเป็นปี แม้ว่าตนไม่คิดว่าเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นก็ตาม
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่า คิดอย่างไรที่มีข่าวว่า ส.ส.พรรคเดโมแครต บางคนสนับสนุนให้มีการลงมติถอดถอนตน? ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ ตอบว่า "คุณจะถอดถอนคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด และเป็นประธานาธิบดีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงสองปีที่เข้ารับตำแหน่ง ได้อย่างไร?"
ผลสำรวจล่าสุดที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า คนอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 47% เชื่อว่า การปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ ครั้งนี้เป็นความผิดของ ปธน.ทรัมป์ ขณะที่ 33% บอกว่าเป็นความผิดของพรรคเดโมแครต และ 7% ระบุว่าเป็นความผิดของพรรครีพับลิกัน