ตำรวจปราบจลาจลปะทะกับผู้ประท้วงฮ่องกงที่ปิดตายสนามบิน เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ขณะที่สนามบินนานาชาติฮ่องกงเป็นอัมพาตเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ด้านผู้บริหารเกาะฮ่องกงเตือนสถานการณ์กำลังมาถึงจุดแตกหัก
ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงยังคงปิดอาคารหลักของท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ก่อนจะเกิดเหตุปะทะระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับผู้ประท้วงภายในสนามบิน ระหว่างที่ทีมแพทย์นำตัวผู้บาดเจ็บออกจากอาคารผู้โดยสาร ตำรวจใช้กระบองและสเปรย์พริกไทยเพื่อสลายการชุมนุม ซึ่งปิดกั้นทางเข้าออกของทีมแพทย์ ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงอย่างน้อย 2 คนจากเหตุวุ่นวายดังกล่าว
ด้านสำนักงานท่าอากาศยานฮ่องกง ออกแถลงการณ์ยกเลิกเที่ยวบินขาออกหลายร้อยเที่ยวเป็นวันที่ 2 เนื่องจากปฏิบัติการต่างๆของสนามบินได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการประท้วง สร้างความไม่พอใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางออกจากฮ่องกง และมีรายงานการปะทะกันระหว่างนักท่องเที่ยวและผู้ประท้วงภายในสนามบินที่พยายามสกัดกั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยังประตูขาออกสนามบินด้วย
Your browser doesn’t support HTML5
ผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวว่าการที่ผู้ประท้วงทำลายพื้นที่สาธารณะ ปิดตายสนามบิน ปิดกั้นระบบขนส่งมวลชน และใช้อาวุธร้ายแรง ถือเป็นการแสดงท่าทีก่อการร้าย ขณะที่นางมิเชล บาชาเลต์ ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทางการฮ่องกงสืบสวนกรณีการใช้กำลังกับผู้ชุมนุม โดยเฉพาะการยิงแก็สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงว่าอาจขัดต่อกฏหมายระหว่างประเทศ
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เคยกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกง กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารว่า สถานการณ์ในฮ่องกงนั้นตึงเครียดอย่างมาก แต่เชื่อว่าจะคลี่คลายไปได้ และหวังว่าจะไม่มีใครต้องบาดเจ็บและเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพ ก่อนที่จะทวีตข้อความว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เตือนว่ารัฐบาลจีนเคลื่อนกองทัพเข้ามาใกล้พรมแดนฮ่องกง ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบและปลอดภัย
การประท้วงในฮ่องกงเพื่อคัดค้านกฏหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เข้าสู่สัปดาห์ที่ 11 เริ่มต้นจากการคัดค้านกฏหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดียังจีนแผ่นดินใหญ่ ก่อนที่จะขยายผลมาเป็นการคัดค้านการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งผู้บริหารเกาะฮ่องกงคนใหม่ ที่เป็นการเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรม
ขณะที่ทางการฮ่องกง รายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุประท้วงเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 54 คน โดยมี 2 คนอาการสาหัส ซึ่งนางแคร์รี่ แลม ผู้บริหารเกาะฮ่องกง ออกแถลงการณ์ในวันอังคารว่า ตำรวจปราบจลาจลต้องตัดสินใจอย่างทันท่วงที ท่ามกลางสถานการณ์อันยากลำบาก โดยบอกว่าจะพิจารณาเงื่อนไขและข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง หลังจากเหตุวุ่นวายดังกล่าวยุติลง และเตือนว่าฮ่องกงอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย และการประท้วงจะยิ่งผลักให้ฮ่องกงไปสู่จุดที่ไม่มีทางหันหลังกลับไปได้
(เรียบเรียงรายงานจากผู้สื่อข่าววีโอเอ Suzanne Sataline จากฮ่องกง)