Your browser doesn’t support HTML5
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนนี้เป็นต้นไป สินค้าจากฮ่องกงที่นำเข้าสหรัฐฯ จะต้องติดป้าย "Made in China" หรือ "ผลิตในประเทศจีน" ตามคำประกาศของสำนักงานศุลกากรและการปกป้องพรมแดนของสหรัฐฯ ในวันอังคาร
มาตรการล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐฯ คือการแสดงจุดยืนต่อต้านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่รัฐบาลจีนนำมาใช้กับฮ่องกง และถือเป็นการยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้าที่สหรัฐฯ ให้แก่ฮ่องกง ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ในหลายด้าน ตั้งแต่สงครามการค้า ไปจนถึงการรับมือการระบาดของโควิด-19
นั่นหมายความว่า หลังจากวันที่ 25 ก.ย. บริษัทในฮ่องกงจะได้รับการปฏิบัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ต่างจากบริษัทในจีน รวมทั้งในด้านภาษีศุลกากรและมาตรฐานการค้าอื่น ๆ โดยจากนี้บริษัทฮ่องกงมีเวลาอีก 45 วันในการเปลี่ยนข้อความจาก Made in Hong Kong ให้เป็น Made in China
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศว่า ฮ่องกงมิได้อยู่ในสถานะเขตปกครองตนเองซึ่งสามารถได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่อีกต่อไป
เมื่อวันศุกร์ รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดมาตรการลงโทษต่อผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง แคร์รี แลม และผู้บัญชาการตำรวจของฮ่องกงทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนฮ่องกง ขณะที่รัฐบาลจีนก็ตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการลงโทษพลเมืองอเมริกัน 11 คนเช่นกัน
ด้านรัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีเว่น มนูชิน กล่าวในวันจันทร์ว่า บริษัทจากจีนและประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านการจัดทำบัญชีของสหรัฐฯ จะถูกถอดชื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป