ผู้สร้างหนังฮอลลีวู้ดผุดไอเดียนำ ‘ปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่า’ สู่จอเงิน

In this handout photo released by Tham Luang Rescue Operation Center, Thai rescue teams walk inside cave complex where 12 boys and their soccer coach went missing, in Mae Sai, Chiang Rai province, in northern Thailand, Monday, July 2, 2018.

ผู้สร้างภาพยนตร์ในฮอลลีวู้ด เผยการเริ่มเก็บข้อมูลภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตของทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ทั่วโลกร่วมเอาใจช่วยมากว่า 2 สัปดาห์ หวังผลิตเป็นภาพยนตร์สร้างแรงบันดาลใจ

เว็บไซต์ USA Today, CNBC และ The New York Times รายงานตรงกันว่า 2 ผู้กำกับชาวอเมริกัน Michael Scott และ Adam Smith ผู้บริหารบริษัทผลิตภาพยนตร์ Pure Flix ในแอริโซนาและนครลอส แองเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนีย ลงพื้นที่ใกล้กับบริเวณถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อวางแผนจะสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ถ่ายทอดภารกิจที่หลายคนเรียกว่า Mission Impossible ในประเทศไทยครั้งนี้

นาย Michael เปิดเผยว่า ในการนำเสนอข่าวที่เห็นกัน มันอาจดูมืดมนและหม่นหมอง แต่ในมุมของภาพยนตร์เขาจะสร้างสิ่งที่ทุกคนสามารถชมและได้รับแรงบันดาลใจได้ เพราะมีทั้งด้านที่สวยงามของคนไทย และทีมช่วยเหลือนานาชาติ ซึ่งดึงดูดดาราและทีมสร้างภาพยนตร์ระดับแถวหน้าของฮอลลีวู้ดให้มาร่วมถ่ายทอดภาพยนตร์เรื่องนี้ได้

ซึ่งผู้สร้างหนังทั้ง 2 ได้เริ่มเก็บข้อมูลบางส่วนแล้ว และยืนยันว่า จะให้ความเคารพและสิทธิในการสัมภาษณ์ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในปฏิบัติการครั้งนี้ ทั้งเด็กๆและครอบครัวทีมหมูป่า ทีมกู้ภัย และหน่วยซีลของไทย เพื่อให้ข้อมูลในการประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้

ทั้งนี้ บริษัท Pure Flix ของนาย Michael Scott อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง God’s Not Dead ทำรายได้ 70 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,000 ล้านบาท เมื่อ 4 ปีก่อน อีกทั้งเขายังเป็นเจ้าของบริษัท Kaos Entertainment ในประเทศไทย และมีความคุ้นเคยกับประเทศไทยเป็นอย่างดี รวมทั้งภรรยาของเขาที่เป็นคนไทย เป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนของ จ.อ. สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลของไทย ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย

ก่อนหน้านี้ มีภาพยนตร์เรื่อง The 33 หรือ กู้ตายคนงานเหมืองนรก ซึ่งสร้างจากเรื่องจริงเมื่อ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2010 ที่เกิดเหตุเหมืองในเมืองซาน โฮเซ่ ของชิลี ถล่มปิดทางเข้าออกและขังคนงาน 33 ชีวิต ไว้ใต้ดินลึกกว่าตึก 200 ชั้น นานถึง 69 วันของภารกิจช่วยเหลือ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำรายได้ 24 ล้านดอลลาร์ หรือราว 792 ล้านบาทในบ็อกซ์ออฟฟิส