นักวิจัยทดลองวิธีให้ยาต้านเอดส์แนวใหม่ให้ยาปีละ 1-2 ครั้งแทนการรับประทานยาทุกวัน

เป้าหมายคือการพัฒนาตัวยาที่มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น และทำงานอยู่ในร่างกายผู้ป่วยได้นานขึ้น

Your browser doesn’t support HTML5

วิธีให้ยาต้านเอดส์ใหม่แทนการรับประทานยาทุกวัน

ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัย Nebraska เป็นผู้ทดลองระบบการให้ยาต้านเอดส์ใหม่ โดยการนำ protease inhibitors ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปขณะนี้ ไปเข้ากระบวนการที่เรียกว่า nanoformulation ซึ่งทำให้ตัวยาตกผลึกใสเหมือนก้อนน้ำแข็ง ต่อจากนั้นนำไปเคลือบด้วยไขมันและโปรทีน

ลองนึกภาพไอสครีมแท่งเคลือบช็อกโกแลตเปรียบเทียบก็ได้

ที่ต้องทำอย่างนี้ ก็เพื่อช่วยให้ตัวยาทำงานอยู่ในร่างกายได้นานเป็นเดือนๆ ไม่ใช่เป็นวันๆอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

การทดลองให้ยาต้านเอดส์ด้วยวิธีใหม่นี้ ทำควบคู่กับการให้ยาขนานใหม่ ซึ่งค้นพบที่มหาวิทยาลัย Rochester

ยาขนานใหม่ URMC-099 เป็นยาที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อบำบัดอาการผิดปกติทางประสาทเกี่ยวกับการรับรู้ และนักวิจัยอยากจะรู้ว่า จะสามารถให้ยาขนานนี้ควบกับยาต้านเอดส์ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

ในการทดลองกับแซลล์ภูมิคุ้มกันร่างกายของมนุษย์ และกับหนูที่มาจากกระบวนการพันธุวิศวกรรมในห้องปฏิบัติการทดลอง นักวิทยาศาสตร์ประหลาดใจที่พบว่า วิธีให้ยาต้านเอดส์ใหม่นี้ กำจัดเชื้อไวรัส HIV ในปริมาณที่วัดได้ทั้งหมด และเมื่อให้ยาต้านเอดส์ควบกับยาขนานใหม่ URMC-099 ประสิทธิผลของยาต้านเอดส์ยืดเวลาออกไปได้อย่างมาก

ที่คาดหวังกันก็คือ การมีตัวยาที่มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น และทำงานอยู่ในร่างกายผู้ป่วยได้นานมากขึ้น การรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์จะได้ผลมากขึ้นตามไปด้วย

Harris Gelbard หัวหน้าห้องแลบที่ค้นพบ URMC-099 เชื่อว่าถ้ามียาที่ให้ทุกๆ หกเดือนหรือนานกว่านั้น จะทำให้มีผู้ป่วยปฏิบัติตามกระบวนการบำบัดรักษาตัวมากขึ้น ลดผลกระทบข้างเคียง และช่วยให้ผู้ป่วยบริหารจัดการกับอาการโรคของตนได้ดีขึ้นด้วย

อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีให้ยาต้านเอดส์ใหม่ ควบกับยาขนานใหม่นี้ได้ในวารสาร Nanomedicine: Nanotechnology, Biology & Medicine