Your browser doesn’t support HTML5
ยาคลอร์ไซคลิซีน (Chlorcyclizine HCL) เป็นยาต้านฮิสตามีนที่คิดค้นขึ้นราว 50 ปีที่แล้ว เพื่อใช้บำบัดอาการแพ้
แต่ทีมนักวิจัยที่ U.S. National Institute of Health แห่งสหรัฐได้ค้นพบว่ายาแก้แพ้ชนิดนี้และยาที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันอาจจะมีประสิทธิภาพในการบำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอับเสบชนิดซีได้ผลดี
ยาคลอร์ไซคลิซีนและยาในกลุ่มเดียวกัน บำบัดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีได้ด้วยการบล็อกเชื้อไวรัสไม่ให้เข้าไปก่อให้เกิดการติดเชื้อในเซลล์
คุณ Jake Liang ผู้อำนวยการฝ่ายโรคตับที่สถาบันโรคเบาหวาน โรคในระบบย่อยอาหารและโรคไตแห่งชาติ (NIH’s National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases) ที่ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงวอชิงตัน กล่าวว่าในช่วงของการติดเชื้อ เชื้อไวรัสตับอักเสบซีจะแพร่เข้าไปในเซลล์ตัวใหม่ๆ ตลอดเวลา ทีมนักวิจัยคิดว่าหากป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าไปติดเชื้อในเซลล์ตัวใหม่ๆ หรือทำลายขั้นตอนการติดเชื้อได้สำเร็จ เซลล์ที่ติดเชื้อแล้วจะตายลงและไม่แพร่เชื้อต่อแก่เซลล์ข้างเคียง
เชื้อไวรัสตับอักเสบซี ติดต่อทางเพศสัมพันธ์และติดต่อผ่านทางเลือดที่ติดเชื้อ และการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีอาจจะเป็นสาเหตุของอาการตับล้มเหลว มะเร็งตับและอาการตับแข็ง มีคนหลายล้านคนทั่วโลกที่เป็นพาหะของโรคนี้และเจ็บป่วยจากการติดเชื้อโรคนี้
คุณ Liang เน้นว่าปัจจุบันมีการบำบัดที่มีประสิทธิภาพหลายวิธีด้วยกัน แต่ยาต่างๆ ที่ใช้ในการรักษามีราคาแพงมาก มีอาการข้างเคียงของยาและเชื้อโรคเริ่มต่อต้านยาที่ใช้รักษา นอกจากนี้ยาบำบัดเหล่านี้ยังใช้ได้กับเชื้อไวรัสตับอักเสบซีสายพันธุ์ HP เท่านั้น นี่ทำให้มีความจำเป็นอย่างมากในการพัฒนาวิธีบำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
ค่าบำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีที่ใช้ในปัจจุบันอยู่ที่ราว 84,000 ดอลล่าร์สหรัฐสำหรับการบำบัดที่นาน 12 สัปดาห์ ซึ่งแพงมากเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยยาคลอร์ไซคลิซีนที่ราคาเพียงเม็ดละ 50 เซ็นท์สหรัฐฯหรือราว 15 บาทเท่านั้น
ในขั้นต่อไป ทีมนักวิจัยวางแผนที่จะกำหนดให้ได้ว่าจะต้องใช้ยา คลอร์ไซคลิซีนในปริมาณเท่าใดในการบำบัดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
ผลการวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Science Translational Medicine