รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส หารือกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง แห่งฝรั่งเศส กระชับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองประเทศ ตามการเปิดเผยของทำเนียบขาว
แถลงการณ์ทำเนียบขาวเมื่อค่ำวันจันทร์ ระบุว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสและประธานาธิบดีมาคร็อง เห็นตรงกันถึงความจำเป็นในการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีและพหุภาคี ในการรับมือกับภาวะการระบาดใหญ่ของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนหลักประชาธิปไตยทั้งในประเทศและทั่วโลก และยังเห็นชอบถึงความจำเป็นในการควบคุมสถานการณ์ความวุ่นวายในตะวันออกกลางและแอฟริกาด้วย
นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ามารับตำแหน่งเมื่อ 20 มกราคมที่ผ่านมา คณะทำงานของปธน.ไบเดน เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์กับชาติพันธมิตรเป็นวาระสำคัญ ตั้งแต่การกลับเข้าร่วมในองค์การอนามัยโลกและและสนธิสัญญากรุงปารีสว่าด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งผิดจากแนวนโยบายของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนับสนุนแนวทาง “อเมริกาต้องมาก่อน” และถอนตัวออกมาจากความร่วมมือระหว่างประเทศดังกล่าว
การหารือของรองปธน.แฮร์ริสกับผู้นำโลกคนที่สอง นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เป็นสัญญาณว่ารองปธน.หญิงคนแรกของสหรัฐฯ อาจมีบทบาทสำคัญต่อนโยบายต่างประเทศในยุคไบเดน จากที่ก่อนหน้านี้รองปธน.แฮร์ริส ได้ต่อสายตรงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์
ขณะที่การหารือระหว่างรัฐบาลฝรั่งเศสและสหรัฐฯ ในยุคไบเดน ที่มีมาถึง 2 ครั้งในตอนนี้ อาจช่วยให้ปธน.มาคร็อง ซึ่งจะลงเลือกตั้งในปีหน้า จากที่ผู้นำฝรั่งเศสรายนี้เจอกระแสโจมตีจากประชาชน ทั้งจากการจัดการวิกฤตโควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจฝรั่งเศส รวมทั้งความล้มเหลวในการรับมือกับการก่อการร้ายจากกลุ่มไอซิส