Your browser doesn’t support HTML5
ผลการสำรวจชิ้นใหม่ของ Gallup เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ชี้ว่าในช่วงการทำงานปีที่สองของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะผู้นำสหรัฐฯ คะแนนนิยมของเขาในสายตาคนทั่วโลกยังไม่ดีขึ้น หลังจากที่ลดลงไป 18 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปีแรกของการบริหารประเทศ
Gallop สรุปผลจากการสำรวจความคิดเห็นของคนจาก 133 ชาติทั่วโลก โดยรายงานผลการสำรวจนี้บอกว่า คนทั่วโลกเริ่มมีความคลางแคลงใจในตัวทรัมป์ในช่วงปีแรกของการทำงานในด้านความมุ่งมั่นที่มีต่อต่างประเทศและความคาดเดายากของตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกัน ผลการสำรวจครั้งนี้ชี้ว่า ผู้นำทั้งของจีนเเละของรัสเซียได้รับความนิยมมากขึ้น
ความนิยมในรัฐบาลจีนเเละรัสเซียเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากคนในกว่า 10 ประเทศนิยมผู้นำทั้งสองชาตินี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 โดยทั้งหมดเป็นชาติที่ชอบผู้นำสหรัฐฯ น้อยลง ซึ่งรวมทั้งเม็กซิโกเเละตุรกี
ผลการสำรวจความคิดเห็นนี้ชี้ว่า รัฐบาลเยอรมนีได้รับความนิยมสูงที่สุดที่ร้อยละ 39 แต่นี่เป็นครั้งเเรกที่ความนิยมของคนทั่วโลกต่อรัฐบาลเยอรมนีลดลงมาต่ำกว่าร้อยละ 40 ในรอบ 10 ปี
Gallup จัดทำการสำรวจแบบนี้มาต่อเนื่องตั้งเเต่ปี ค.ศ. 2007 และผลการสำรวจล่าสุดเเสดงว่ามีคนทั่วโลกนิยมรัฐบาลสหรัฐฯ น้อยกว่าผู้นำโลกชาติกอื่นๆ โดยคะเเนนความไม่ชอบต่อสหรัฐฯ อยู่ที่ร้อยละ 40 ซึ่งสูงกว่าคะเเนนความไม่ชอบรัฐบาลเยอรมนี ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 22 รัฐบาลจีนที่ร้อยละ 28 เเละรัฐบาลรัสเซียที่ร้อยละ 31
Jon Clifton แห่ง Global Managing Partner ของ Gallop กล่าวในรายงานการสำรวจว่า นโยบายต่างประเทศ "America First" ของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ได้มุ่งชนะใจคนทั่วโลก เเละย้ำว่าทรัมป์ได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศระดับทั่วโลกหลายอย่างที่ไม่เป็นที่นิยมชมชอบของคนทั่วโลก รวมทั้งการถอนตัวสหรัฐฯ จากความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership) ข้อตกลงว่าด้วยภาวะโลกร้อนแห่งปารีส เเละข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ตลอดจนการเริ่มต้นสงครามการค้ากับยุโรปเเละจีน
Clifton กล่าวว่า ในขณะที่นโยบายของทรัมป์ไม่มุ่งสร้างความนิยมแก่สหรัฐฯ แต่ผลกระทบที่ตามมาจะส่งผลเสียต่อความได้เปรียบทางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ เขาอ้างอิงข้อมูลจากผลการวิจัยโดยมหาวิทยาลัยดาร์ทมัธ (Dartmouth College) เเละมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ที่พบว่าความคิดเห็นของประชาชนจากทั่วโลกเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ มีผลกระทบต่อนโยบายต่อสหรัฐฯ ของประเทศต่างๆ
ผลการสำรวจของ Gallup ชิ้นใหม่พบว่า ภาพลักษณ์ของผู้นำสหรัฐฯ ย่ำเเย่มากที่สุดในยุโรป โดยความนิยมต่อตัวผู้นำสหรัฐฯ ทั่วทั้งทวีปเหลืออยู่ที่เพียงร้อยละ 24 เท่านั้น
ขณะที่ชาวยุโรปให้คะเเนนนิยมในตัวผู้นำสหรัฐฯ ต่ำมากโดยรวม ชาวยุโรปเเสดงความนิยมในผู้นำรัสเซียต่ำกว่าผู้นำสหรัฐฯ เสียอีก โดยอยู่ที่ร้อยละ 21 เท่านั้น
โดยรวมแล้ว ชาวยุโรปไม่ชอบผู้นำสหรัฐฯ เเละผู้นำรัสเซียพอๆ กัน โดยชาวยุโรปเกือบ 6 ใน 10 คนไม่นิยมในตัวผู้นำของประเทศทั้งสอง
ชาวยุโรปมีความนิยมในตัวผู้นำของเยอรมนีมากที่สุด โดยอยู่ที่ร้อยละ 56 ตัวเลขนี้คล้ายกับของปีที่แล้วที่ร้อยละ 54
ส่วนในเอเชีย ค่านิยมในตัวผู้นำสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกราว 2 เปอร์เซ็นต์ตั้งเเต่ปีที่แล้ว เเต่ยังถือต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 32 เเละพื้นที่ที่ Gallup ถือว่าเป็นเอเชียนี้ รวมทั้งเอเชียตะวันออกเเละตะวันออกกลาง ซึ่งแสดงความนิยมต่อผู้นำเยอรมนีที่ร้อยละ 36 เเละผู้นำจีนร้อยละ 34 ซึ่งมากกว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เเละคนในเอเชียนิยมผู้นำรัสเซียน้อยพอๆ กับผู้นำสหรัฐฯที่ร้อยละ 32
และมีคนส่วนใหญ่ในเพียง 5 ชาติเท่านั้นในเอเชียที่เเสดงความนิยมในตัวผู้นำสหรัฐฯ ได้เเก่ อิสราเอล ที่ร้อยละ 67 ฟิลิปปินส์ที่ร้อยละ 61 มองโกเลียที่ร้อยละ 60 เนปาลที่ร้อยละ 55 เเละเมียนม่า ที่ร้อยละ 52
ประเทศที่มีความนิยมในรัฐบาลสหรัฐฯ ต่ำที่สุด คือ อิหร่าน ที่ร้อยละ 85 ปาเลสไตน์ที่ร้อยละ 81 เเละเยเมนที่ร้อยละ 75
Gallup ชี้ว่า มีปัจจัยสองอย่างที่อาจทำลายภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ มากที่สุดในภูมิภาคนี้ นั่นก็คือ สงครามการค้าที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เเละการถอนตัวของสหรัฐฯ จากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน
แม้ว่าความนิยมในรัฐบาลสหรัฐฯ ในภูมิภาคจะต่ำ มีเพียงสามชาติเท่านั้นที่ความนิยมในผู้นำสหรัฐฯ ลดลงอย่างมาก คือ อิหร่าน ซึ่งสหรัฐฯ ยังใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อไป ตุรกี ที่มีปัญหาขัดเเย้งทางการค้ากับสหรัฐฯเเละกัมพูชา ที่สหรัฐฯ ขู่คว่ำบาตรเพราะปัญหาทางการเมือง
ขณะเดียวกัน ความนิยมในผู้นำสหรัฐฯได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในหลายประเทศในเอเชีย ได้แก่ ไต้หวัน อินเดีย บังคลาเทศ เเละอุซเบกิสถาน
(เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)