หน่วยงานด้านสาธารณสุขของฝรั่งเศสออกคำแนะนำให้ประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี รับวัคซีนโคเมียร์นาตี (Comirnaty) ของไฟเซอร์ (Pfizer) ทันทีที่มีการแจกจ่าย แทนที่จะเลือกวัควีนสไปค์แว็กซ์ (Spikevax) ของ โมเดอร์นา (Moderna) เนื่องจากปัจจัยความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหัวใจที่สูงกว่า ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์
สำนักงานสุขภาพแห่งชาติของฝรั่งเศส (Haute Autorite de Sante หรือ French National Authority for Health) ซึ่งไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการสั่งห้ามหรือออกใบอนุญาตการใช้ยาใดๆ แต่ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานที่ปรึกษาด้านสาธารสุข ออกคำแนะนำดังกล่าว โดยอ้างถึง ความเสี่ยง “ที่เกิดขึ้นค่อนข้างยาก” อันเกี่ยวเนื่องกับโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) ซึ่งพบในข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับวัคซีนของโมเดอร์นา และในรายงานการศึกษาที่จัดทำในฝรั่งเศสอีกฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อวันจันทร์
หน่วยงานดังกล่าวระบุในรายงานที่เผยแพร่ออกมาในวันจันทร์เช่นกันว่า เมื่อเทียบวัคซีนโคเมียนร์นาตี กับวัคซีนสไปค์แว็กซ์ แล้ว ความเสี่ยงของการเกิดอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ของวัคซีนตัวแรกนั้นต่ำกว่าอีกตัวถึงราว 5 เท่า
เมื่อเดือนที่แล้ว สำนักงานยายุโรป (EMA) อนุมัติการใช้วัคซีนเข็มบูสเตอร์ของโมเดอร์นา สำหรับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 แล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
ทั้งนี้ EMA รายงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมาว่า พบความเชื่อมโยงระหว่างอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและวัคซีนโควิด-19 ทั้งของไฟเซอร์และโมเดอร์นา แต่ย้ำว่า เมื่อพิจารณาดูประโยชน์กับความเสี่ยงแล้ว การรับวัคซีนโควิด-19 นั้นน่าจะมีผลดีในระดับที่สูงกว่าความเสี่ยงของอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นคำแนะนำในทิศทางเดียวกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ และองค์การอนามัยโลก
อย่างไรก็ดี สำนักงานสุขภาพแห่งชาติฝรั่งเศสชี้ว่า คำแนะนำของตนนั้นใช้ได้กับกรณีการรับวัคซีนเข็มแรก เข็มที่ 2 และเข็มบูสเตอร์ จนกว่าจะมีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจงกว่าที่มีอยู่ออกมาอีกครั้ง
แต่สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป หน่วยงานนี้แนะนำให้รับวัคซีนสไปค์แว๊กซ์ ของโมเดอร์นา เพราะประสิทธิผลที่สูงกว่าสำหรับผู้รับยากลุ่มนี้