สละเรือ! คณะทำงาน 'ทรัมป์' ทยอยลาออก หลังเหตุจลาจลที่รัฐสภาสหรัฐฯ

(FILES) In this file photo taken on June 09, 2017, US Transportation Secretary Elaine Chao and US President Donald Trump participate in a roundtable discussion at the US Department of Transportationin Washington, DC.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ เอเลน เชา (Elaine Chao) ประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันพฤหัสบดี ถือเป็นรัฐมนตรีคนแรกที่ลาออกหลังเกิดเหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ

รมต.เชา ภรรยาของ ส.ว.มิตช์ แม็คคอนแนลล์ ผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดทางการเมืองกับผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เธอรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรุกรัฐสภาเมื่อวันพุธ

"เมื่อวานนี้ อเมริกาต้องเผชิญกับความเศร้าโศกและเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา หลังจากฟังคำปราศรัยของประธานาธิบดีทรัมป์" รมต.เชา กล่าว

Education Secretary Betsy DeVos speaks during a White House Coronavirus Task Force briefing at the Department of Education building Wednesday, July 8, 2020, in Washington. (AP Photo/Manuel Balce Ceneta)

หลังข่าวการลาออกของรัฐมนตรีคมนาคมสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมง สื่อหลายแห่ง รวมทั้ง ซีเอ็นเอ็น และวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ เบตซี ดีวอส (Betsy DeVos) ได้ยื่นใบลาออก สืบเนื่องจากการจลาจลเมื่อวันพุธเช่นกัน

รัฐมนตรีทั้งสองคนคือส่วนหนึ่งของคณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ทยอยลาออกจากตำแหน่งหลังเหตุการณ์จลาจลดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว มิค มัลวานีย์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งทูตพิเศษประจำไอร์แลนด์เหนือ

นายมัลวานีย์ ประกาศการลาออกในวันพฤหัสบดี พร้อมระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ อีกหลายคนที่กำลังพิจารณาว่าจะสละตำแหน่งเช่นกัน

Mick Mulvaney

อดีตหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว กล่าวกับ CNBC ว่าตนไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป และตนได้คุยกับคนที่จะเลือกทำงานต่อไปบางคนซึ่งบอกว่ายังต้องอยู่ต่อเพราะเกรงว่าประธานาธิบดีจะเลือกคนใหม่ที่แย่กว่าเดิม

หลังการลาออกของนายมัลวานีย์ไม่นาน นายจอห์น คอสเตลโล รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฝ่ายข่าวกรองและความมั่นคง ประกาศลาออกเพราะความรุนแรงที่รัฐสภาเช่นกัน โดยระบุทางทวิตเตอร์ว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เป็นการโจมตีที่หัวใจของประชาธิปไตยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยการปลุกปั่นของประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง"

Supporters of U.S. President Donald Trump occupy the U.S. Capitol Building in Washington, U.S., January 6, 2021. Thomas P. Costello/USA TODAY via REUTERS NO RESALES. NO ARCHIVES

การลาออกของบุคคลในคณะทำงานของทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์จลาจลที่รัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่กำลังมีการรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดน ที่ห้องประชุมในอาคารรัฐสภา ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนคนเดินขบวนไปยังรัฐสภา โดยกล่าวว่าตนถูกโกงเลือกตั้ง และว่า "เราไม่สามารถยึดประเทศคืนมาได้ด้วยความอ่อนแอ แต่ต้องแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็ง และต้องแข็งแกร่ง"

นอกจากเจ้าหน้าที่สองคนดังกล่าว ยังมีคณะทำงานของทรัมป์ที่ทยอยลาออกเช่นกัน รวมทั้ง แมตต์ พอตทิงเกอร์ ผู้จัดทำนโยบายด้านจีน, สเตฟานี กริชแชม หัวหน้าคณะทำงานของเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลขหนึ่ง, ซาราห์ แมทธิว รองโฆษกทำเนียบขาว และ ริคกี้ นิเซต้า เลขานุการทำเนียบขาว ล้วนประกาศลาออกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา