สมาพันธ์ฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า (FIFA) เผยปลอกแขนกัปตันทีมฟุตบอลแบบใหม่ภายใต้ธีม "เพื่อสังคม" ที่จะนำมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงประจำปี 2023 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะจัดขึ้นที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
ปลอกแขน "unite for inclusion" หรือ สามัคคีเพื่อเป็นหนึ่งเดียวกัน มีทั้งหมด 8 สี 8 แบบ ที่เน้นถึงประเด็นสังคมในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ ความเท่าเทียมทางเพศ ความเสมอภาคทางการศึกษา การขจัดความหิวโหย และการยุติความรุนแรงต่อสตรี เป็นต้น
ทั้งนี้ ในการแข่งขันฟุตบอลโลกของทีมชายที่กาตาร์เมื่อปีที่แล้ว ได้มีความพยายามรณรงค์ให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมสีรุ้งในธีม "OneLove" เพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากถูกคัดค้านจากประเทศเจ้าภาพที่มีกฎหมายต่อต้านคนรักเพศเดียวกัน
FILE - England captain Harry Kane wears a OneLove armband in rainbow colors during a UEFA Nations League match against Germany at London's Wembley Stadium, Sept. 26, 2022.
สำหรับฟุตบอลโลกหญิงที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ กัปตันทีมชาติต่าง ๆ สามารถเลือกได้ว่าจะสวมปลอกแขนที่สนับสนุนประเด็นทางสังคมแบบไหนในแต่ละนัดที่ลงแข่ง
จิอานนี อินแฟนติโน ประธานฟีฟ่า กล่าวว่า "ฟุตบอลรวมชาติต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน และการแข่งขันรายการฟุตบอลโลกหญิงก็มีพลังที่สามารถดึงผู้คนให้มาร่วมกันเพื่อความสนุกสนาน ความตื่นเต้นและความปรารถนาอันแรงกล้า" ดังนั้นทางฟีฟ่าจึงตัดสินใจว่าจะมีการชูประเด็นทางสังคมต่าง ๆ ระหว่างการแข่งขันทั้ง 64 นัดในครั้งนี้
FILE - Team USA celebrates after winning the Women's World Cup soccer final against the Netherlands in Lyon, France, July 7, 2019. The U.S. will be playing for an unprecedented three-peat at the Women's World Cup this summer.
รูปแบบใหม่ของการแข่งขัน
ฟุตบอลโลกหญิงที่ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่มีทีมเข้าแข่งขัน 32 ทีม จาก 24 ทีม โดยแบ่งเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม จากนั้นจะมีทีมอันดับที่ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มผ่านเข้ารอบไปแข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบแพ้ตกรอบ จนกระทั่งถึงรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 20 สิงหาคม
ทีมชาติสหรัฐฯ แชมป์เก่าสองสมัยและทีมอันดับหนึ่งของโลกในขณะนี้ ตั้งความหวังว่าจะเป็นทีมแรกในประวัติสาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์ได้สามสมัยติด โดยสหรัฐฯ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอี กลุ่มเดียวกับทีมเนเธอร์แลนด์ ทีมโปรตุเกส และทีมเวียดนาม
โดยทีมชาติสหรัฐฯ ถูกจัดให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์โลก รองลงมาคือทีมชาติอังกฤษและสเปน ตามลำดับ ขณะที่เจ้าภาพ ออสเตรเลีย ถูกมองว่าเป็นม้ามืดที่มีโอกาสสอดแทรกขึ้นมาคว้าแชมป์ได้เช่นกัน
- ที่มา: เอเอฟพี และเอพี