ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Federal Reserve (Fed) ประกาศในวันพุธว่า จะเริ่มลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนลง เพื่อลดการอัดฉีดเงินกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ โดยมีแผนจะหยุดการซื้อพันธบัตรรายเดือนทั้งหมดภายในปีหน้า ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
อย่างไรก็ตาม Fed ยังคงเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจะเป็นเพียงชั่วคราวและไม่จำเป็นต้องมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมเงินเฟ้อแต่อย่างใด
ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ ยอมรับว่า ปัญหาที่ระบบห่วงโซ่อุปทานของโลกในขณะนี้คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ซึ่งจะเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
ทั้งนี้ คำประกาศของ Fed เรื่องการลดปริมาณการซื้อพันธบัตรกระทรวงการคลังลง 15,000 ล้านดอลลาร์จากระดับ 120,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนที่ใช้มาตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว มิได้ส่งสัญญาณใด ๆ ว่า Fed จะเริ่มกลับมาใช้นโยบายการเงินตามปกติ ซึ่งรวมถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อใด
โดยคณะกรรมการตลาดเสรีของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (Federal Open Market Committee) มีคำแถลงว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจและอัตราการจ้างงานในสหรัฐฯ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่อัตราดอกเบี้ยจากระดับใกล้ศูนย์ จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มถึงระดับ 2% และมีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 2% เป็นระยะเวลาหนึ่ง
โดยรวมแล้ว Fed ยังคงเชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้จะค่อย ๆ ลดลง พร้อมส่งสัญญาณเป็นนัยว่ากระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลานานกว่าเดิม
- ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์