ธนาคารกลางของสหรัฐฯ หรือเฟด (Federal Reserve) ถือเป็นองค์กรอิสระสำคัญของรัฐบาลที่มีความสามารถในการควบคุมทิศทางของเศรษฐกิจอเมริกันและเสถียรภาพของระบบการเงินด้วยการปรับนโยบายต่างๆ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยและออกมาตราการต่อสถาบันการเงิน
ปกติแล้วสามตำแหน่งใหญ่ซึ่งได้แก่ ประธาน รองประธาน และรองประธานผู้ดูแล จะได้รับการแต่งตั้งโดยประธาธิบดีสหรัฐฯ ตำแหน่งเหล่านี้จะมีวาระ 4 ปี
อย่างไรก็ตาม บุคคลที่จะดำรงสามตำแหน่งข้างต้นได้นั้นจะต้องได้การแต่งตั้งให้เข้ามาอยู่ในคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Board) เสียก่อน โดยคณะดังกล่าวประกอบด้วยผู้ว่าการ 7 คนซึ่งตำแหน่งเหล่านี้จะมีวาระทั้งสิ้น 14 ปี
หมายความว่าผู้ว่าการแต่ละคนสามารถดำรงตำแหน่งคาบเกี่ยวประธานาธิบดีได้หลายสมัย การจัดตั้งระบบขึ้นมาเช่นนี้เป็นการส่งเสริมให้เฟดเป็นอิสระต่ออิทธิพลหรือแนวคิดทางเศรษฐกิจของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
ประเด็นร้อนล่าสุดที่เกิดขึ้นและอาจจะส่งผลกระทบต่อการเสนอชื่อนาย เจอโรม พาวเวลล์ หรือประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางของสหรัฐฯ คนปัจจุบันให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 4 ปี มีเรื่องราวมาจากการซื้อหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดที่ดูแลธนาคารกลางในเขตดัลลาสและเขตบอสตัน ซึ่งประกอบด้วยบุคคลตำแหน่งรองประธานสาขาดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทั้งคู่กล่าวว่าได้ทำตามกฎหมายและเเนวทางที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้นยังได้ประกาศลงจากตำแหน่งในวันที่ 27 กันยายนแล้ว
วุฒิสมาชิก อลิซาเบธ วอร์เรน จากรัฐแมสซาชูเซตส์ได้ออกมาวิจารณ์ว่าเหตุการณ์ที่ไม่โปร่งใสข้างต้นเกิดขึ้นภายใต้การอนุมัติของนายเจอโรม พาวเวลล์ เธอจึงเรียกร้องให้มีการไต่สวนขึ้น พร้อมทั้งบอกให้หลายๆฝ่ายคัดค้านการเสนอชื่อให้นายพาวเวลล์ดำรงแหน่งหัวหน้าเฟดต่อด้วย
ขณะนี้ วาระของเขาเหลือเพียงไม่ถึง 6 เดือนเท่านั้นและประธานาธิบดีไบเดนจะต้องทำการเสนอชื่อว่าจะให้นายพาวเวลล์ดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ใน เร็วๆนี้ นอกจากนี้ ตำแหน่งบนบอร์ดเฟดก็ยังมีว่างอยู่หนึ่งตำแหน่งและในเดือนมกราคมปีหน้าที่จะถึงนี้ อีกตำแหน่งก็จะว่างด้วย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อาวุโสหลายๆ คน รวมทั้งเดวิด เวสแซลแห่งสถานบัน Brookings Institution และมาร์ค แฮมริคของเว็บไซด์ทางการเงิน Bankrate.com ต่างก็บอกกับวีโอเอว่า มีความเป็นไปได้สูงที่นาย เจอโรม พาวเวลล์ จะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางของสหรัฐฯ ต่อไปอีก 4 ปี
คุณมาร์ค แฮมริคระบุเหตุผลว่านายพาวเวลล์มีผลงานที่ดีในการคุมบังเหียนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งยังได้รับจากสนับสนุนจากทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกันอีกด้วย ส่วนคุณเดวิด เวสแซลบอกสั้นๆ ว่าแม้จะได้รับการเสนอชื่ออีกครั้งแต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะยอมรับว่าประเด็นการซื้อหุ้นที่ของเจ้าหน้าที่ระดับก็ส่งผลกระทบต่อนายพาวเวลล์ในทางลบ
แม้จะมีความเป็นไปได้สูงว่าการโน้มนาวของวุฒิสมาชิกวอร์เรนที่จะไม่ให้นายพาวเวลล์นั่งเก้าอี้หัวหน้าเฟดต่อนั้นจะไม่ประสบผลสำเร็จ
แต่การการะทำของเธอก็ไม่ถือว่าเสียเปล่า เพราะเธอกับนักการเมืองที่มีความคิดแนวก้าวหน้าได้ออกตัวอย่างชัดเจนว่าอยากให้ผู้ว่าการเฟดอย่างเลเอล์ เบรย์เนิร์ด ที่มีจุดยืนที่สนับสนุนพรรคเดโมแครค ขึ้นมานั่งเก้าอี้หลักแทนนายพาวเวลล์ และหากไม่ได้ตำแหน่งดังกล่าว นางเบรย์เนิร์ดก็อาจจะได้มานั่งตำแหน่งสำคัญอื่นๆ แทน
ปิดท้ายด้วยนายเจสสี่ แวน โทล ประธานกลุ่ม National Community Reinvestment ที่คาดการณ์ว่ามีโอกาสที่รัฐบาลชุดนี้เลือกที่จะแต่งตั้งผู้ว่าการเฟดตามคำเรียกร้องข้างต้นเพื่อให้นายพาวเวลล์ได้ดำรงตำแหน่งต่อ หากรัฐบาลชุดนี้เชื่อว่าผู้ว่าการต่างๆได้รับการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ จะสามารถงานร่วมกับนายพาวเวลล์ได้