Your browser doesn’t support HTML5
คณะกรรมการสหภาพยุโรป ยืนยันในวันจันทร์ว่าพร้อมแล้วสำหรับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อหาทางจัดทำข้อตกลงการค้าก่อนสิ้นปีนี้ ตามรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์
ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ลงมติในวันนี้ อนุญาตให้มีการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยในบรรดาสมาชิก 28 ประเทศ มีเพียงฝรั่งเศสที่ออกเสียงคัดค้าน ขณะที่เบลเยียมงดออกเสียง
เซซิเลีย มาล์มสตอร์ม ผู้แทนด้านการค้าของอียู กล่าวว่า เธอจะติดต่อไปยังนายโรเบิร์ต ไลท์ธิเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เพื่อหารือว่าจะเริ่มกระบวนการเจรจาเมื่อใด
การเจรจาดังกล่าวจะแบ่งเป็นสองส่วน หนึ่งคือการหาทางลดภาษีสำหรับสินค้าอุตสาหกรรม และสองคือการลดกฎเกณฑ์ต่างๆ สำหรับบริษัทที่ต้องการแสดงสินค้าที่ได้มาตรฐานของอียูหรือสหรัฐฯ
ปัจจุบัน อียูและสหรัฐฯ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกันและกัน โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันคิดเป็น 30% ของมูลค่าการค้าโลก
รายงานสำรวจของอียู ประเมินว่า การจัดทำข้อตกลงลดภาษีสำหรับสินค้าอุตสาหกรรมระหว่างอียูกับอเมริกา จะช่วยเพิ่มปริมาณการส่งออกสินค้าจากอียูไปยังสหรัฐฯ ได้อีก 8% และเพิ่มสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ มายังอียู ได้ราว 9%
อย่างไรก็ตาม ทางอียูยืนยันว่า การเจรจากับสหรัฐฯ ครั้งนี้จะไม่รวมสินค้าการเกษตร ซึ่งถือเป็นส่วนที่เปราะบางของสหภาพยุโรป แม้ว่าสหรัฐฯ จะต้องการเข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรในยุโรปได้มากขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ ทางอียูระบุว่า จะไม่มีการสรุปการเจรจาจนกว่าสหรัฐฯ จะยอมยกเลิกกำแพงภาษีต่อสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมจากยุโรป และพร้อมจะหยุดการเจรจาทันทีหากว่าสหรัฐฯ ตัดสินใจเพิ่มภาษีกับรถยนต์ของยุโรปด้วย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศรายชื่อสินค้าหลายชนิดจากยุโรปที่อาจถูกเก็บภาษีเพิ่ม รวมมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง เครื่องบิน ผลิตภัณฑ์จากนม และไวน์
ขณะที่ยุโรปก็เตรียมประกาศรายชื่อสินค้าจาหสหรัฐฯ ที่อาจถูกเก็บภาษีตอบโต้เช่นกัน รวมมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึง ปลา ยาสูบ กระเป๋าเดินทาง เครื่องบิน และวิดีโอเกม