ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯเตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป หรือ อียู มูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 341,000 ล้านบาท เพื่อตอบโต้กรณีอียูให้เงินอุดหนุนบริษัทผลิตอากาศยาน แอร์บัส ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมกับบริษัทโบอิ้ง คู่แข่งสัญชาติอเมริกัน
โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว องค์การการค้าโลก มีคำวินิจฉัยเข้าข้างสหรัฐฯ ว่าประเทศในสหภาพยุโรป ให้เงินอุดหนุนกับบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินแอร์บัส 22,000 ล้านดอลลาร์โดยผิดกฏหมาย
ผู้นำสหรัฐฯ ทวีตข้อความเมื่อวันอังคาร ว่าเงินอุดหนุนของกลุ่มอียูส่งผลร้ายต่อสหรัฐฯอย่างมาก และสหรัฐฯจะปรับขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากอียู มูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ จากที่อียูได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯมานานหลายปี ซึ่งจะต้องยุติในเร็วๆนี้
สหรัฐฯและอียูมีข้อพิพาทการค้าระหว่างกันมานานแล้ว จากประเด็นการให้เงินอุดหนุนกับบริษัทผู้ผลิตอากาศยาน 2 รายใหญ่ คือ แอร์บัส และโบอิ้ง และเท่าที่ผ่านมาองค์การการค้าโลก มีคำตัดสินที่คัดค้านการให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมการบินของทั้ง 2 ฝ่ายสลับกันไป
ด้านนายโรเบิร์ต ไลท์ธิเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ บอกว่า ข้อพิพาททางการค้าดังกล่าวดำเนินมานานกว่า 14 ปีแล้ว และถึงเวลาที่จะต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรม โดยเป้าหมายสูงสุดของสหรัฐฯ คือ บรรลุข้อตกลงกับอียูเพื่อยุติการอุดหนุนบริษัทอากาศยานรายใหญ่นี้ให้ได้ ซึ่งหากอียูยกเลิกการอุดหนุนได้ การปรับขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมเพื่อตอบโต้การค้าที่ไม่เป็นธรรมก็อาจจะยกเลิกไป
ทั้งนี้ การปรับขึ้นภาษีรอบใหม่ของสหรัฐฯ จะยังไม่มีผลจนกว่าองค์การการค้าโลก หรือ WTO จะพิจารณาถึงขอบเขตของการปรับขึ้นภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ สามารถใช้เพื่อตอบโต้ต่ออียู และอาจต้องใช้เวลาราว 2-3 เดือน