อีไล ลิลลี แอนด์ คัมปานี (Eli Lilly and Company) บริษัทยาสัญชาติอเมริกัน ประกาศเมื่อวันอังคารว่าบริษัทได้ระงับการทดลองยาต้านไวรัสโควิด-19 แล้ว เนื่องจากกังวลถึงความปลอดภัยของวัคซีน
อีไล ลิลลี ได้พัฒนายาดังกล่าวร่วมกับบริษัทแอ็บเซลเลรา (AbCellera) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาคิแคนาดา โดยยาตัวนี้จะสร้างสารภูมิต้านทานจากโคลนของเซลล์เดียว ซึ่งเป็นวิธีสร้างภูมิต้านทานที่คล้ายกับวิธีที่ใช้รักษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังผู้นำสหรัฐฯ ถูกตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
ทางบริษัทได้เริ่มทดลองยาต้านไวรัสนี้เมื่อเดือนสิงหาคม โดยตั้งเป้าทดลองกับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในสหรัฐฯ 10,000 คน ทางบริษัทยังขอการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ เพื่อให้ใช้ยาต้านไวรัสกับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางได้ในกรณีฉุกเฉิน โดยอ้างอิงจากผลการทดลองเบื้องต้นหลายครั้ง
ก่อนหน้าที่ อีไล ลิลลี ประกาศระงับการทดลองเพียงหนึ่งวัน จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) บริษัทยาสัญชาติอเมริกันอีกเจ้าหนึ่ง ก็ประกาศระงับการทดลองวัคซีนขั้นสุดท้ายในอาสาสมัคร 60,000 คนในพื้นที่กว่า 200 แห่งในสหรัฐฯ อาร์เจนตินา บราซิล เม็กซิโก และแอฟริกาใต้ หลังผู้เข้ารับการทดลองคนหนึ่งมีอาการป่วย โดยทางบริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดของอาการป่วยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เป็นบริษัทที่สองที่ระงับการทดลองวัคซีนหลังอาสาสมัครมีอาการไม่สบาย หลังจากเมื่อเดือนกันยายน แอสตราเซเนคา (AstraZeneca) บริษัทผลิตยาสัญชาติอเมริกัน ก็ระงับการทดลองวัคซีนร่วมพัฒนากับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด หลังอาสาสมัครในอังกฤษถูกวินิจฉัยว่ามีอาการไขสันหลังอักเสบ ซึ่งเป็นอาการที่สามารถถูกกระตุ้นจากการติดเชื้อไวรัส
โดยต่อมา ทางบริษัทได้กลับมาทดลองวัคซีนระยะสุดท้ายในอังกฤษ บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้ แต่ยังคงระงับการทดลองในสหรัฐฯ ต่อไป