Your browser doesn’t support HTML5
เดมเลอร์ (Daimler) ผู้ผลิตรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศเร่งเครื่องรุกตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มสูบ แต่ได้เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์ครั้งนี้อาจนำไปสู่การปรับลดแรงงานด้วยเช่นกัน ตามรายงานของรอยเตอร์
บริษัทเดมเลอร์ กางแผนลงทุนกว่า 40,000 ล้านยูโร หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท ภายในปี ค.ศ. 2030 เพื่อพร้อมสำหรับการโค่นบัลลังก์รถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าจากเทสลา โดยจะสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้านี้ และภายในปี 2025 โรงงานใหม่ๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะผลิตแต่รถขับเคลื่อนไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และตั้งเป้าให้ยอดขายรถยนต์ราว 50% มาจากรถยนต์ไฟฟ้าและระบบไฮบริดในช่วงเวลาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเดมเลอร์ ไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับการยุติการจำหน่ายรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม
ก่อนหน้านี้ บริษัท Geely ผู้ผลิตรถยนต์วอลโว ประกาศผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 และ General Motors ตั้งเป้าไว้ที่ปี 2035 ขณะที่ท่าทีของเดมเลอร์ มีขึ้นหลังจากสหภาพยุโรป มีแผนจะห้ามจำหน่ายรถที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลในปี 2035 เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน
เดมเลอร์ เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่น ภายในปี 2025 และเตรียมสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ 4 แห่งในยุโรป และอีก 1 แห่งในสหรัฐฯ และจะสร้างโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่ในเยอรมนี ซึ่งจะเริ่มเดินเครื่องได้ในปี 2023
อย่างไรก็ตาม แผนลงทุนมหาศาลของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่จะเปลี่ยนจากการผลิตรถยนต์ดั้งเดิมมาเป็นพลังงานไฟฟ้า จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานอย่างชัดเจน จากที่รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะมีชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ที่น้อยกว่า และใช้แรงงานน้อยกว่าระบบดั้งเดิม
(ที่มา: Reuters)