ลิ้งค์เชื่อมต่อ

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับลดเป้าผลิตวัคซีนโควิด-19


FILE PHOTO: Vials labeled "COVID-19 Coronavirus Vaccine" and syringe are seen in front of displayed Johnson&Johnson logo in this illustration taken, February 9, 2021. REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo
FILE PHOTO: Vials labeled "COVID-19 Coronavirus Vaccine" and syringe are seen in front of displayed Johnson&Johnson logo in this illustration taken, February 9, 2021. REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo
Business News
please wait

No media source currently available

0:00 0:05:56 0:00


บริษัทยา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายวัคซีนโควิด-19 ของตนในปีนี้ที่ 2,500 ล้านดอลลาร์ พร้อมประกาศปรับเป้าการผลิตวัคซีนหลังกระบวนการผลิตบางส่วนที่ใช้เวลานานเป็นพิเศษเริ่มส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ

สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า โจเซฟ วอลค์ ผู้บริหารสูงสุดทางด้านการเงินของ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของ CNBC ว่า ในปีนี้ บริษัทน่าจะจำหน่ายวัคซีนที่ตนพัฒนาและผลิตได้ราว 500-600 ล้านโดส ซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำกว่าเป้าหมายการผลิต 1,000 ล้านโดส ที่ตั้งไว้สำหรับปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้เปิดเผยถึงกรอบระยะเวลาว่าจะกลับมาเริ่มการผลิตวัคซีนที่โรงงานในเมืองบัลติมอร์อีกครั้งเมื่อใด หลังเกิดปัญหาที่สายการผลิต ทำให้กระทบแผนการนำส่งวัคซีนทั้งในสหรัฐฯ และการส่งออกไปยุโรปด้วย

ในส่วนของยอดขายนั้น จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คาดว่า กว่าครึ่งหนึ่งของเป้ายอดขาย 2,500 ล้านดอลลาร์สำหรับปีนี้ จะมาจากยอดจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 หลังจากรายงานยอดขายวัคซีนโควิด-19 มูลค่า 164 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งทำให้ยอดขายสะสมของปีมาอยู่ที่ 264 ล้านดอลลาร์ ในเวลานี้

จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ยังประเมินด้วยว่า ราคาวัคซีนของตนซึ่งอยู่ที่ระดับ 5 ดอลลาร์ต่อโดสในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ น่าจะปรับขึ้นเป็น 8 ดอลลาร์ในช่วงหลังของปี โดยยืนยันว่า เป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนสุทธิของตัวยาและปริมาณการผลิต

แม้ว่าบริษัทยาแห่งนี้จะได้รับอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้แจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 ของตน หลังบริษัทไฟเซอร์ และบริษัทโมเดอร์นา ได้รับไฟเขียวไปเพียงไม่กี่เดือน ยอดขายของบริษัทไม่ได้ดูดีมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งทั้งสอง ซึ่งประมาณการณ์ยอดขายในปีนี้ไว้ที่ 26,000 ล้านดอลลาร์ และ 19,200 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

(ที่มา: สำนักข่าว รอยเตอร์)​

XS
SM
MD
LG