ยอดช้อปปิ้ง 'แบล็คฟรายเดย์ -ไซเบอร์มันเดย์' นิ่ง ท่ามกลางข่าวไวรัสกลายพันธุ์

Business News

Adobe Digital Economy Index เปิดเผยว่า ตัวเลขการซื้อสินค้าของคนอเมริกันในช่วง Black Friday หรือ วันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้าในปีนี้ยังไม่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อนการระบาดของโควิด-19

ขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายในวัน Cyber Monday หรือวันจันทร์แรกหลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ก็มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วด้วย อย่างไรก็ตาม Cyber Monday ยังคงเป็นวันที่คนอเมริกันจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุดในรอบปี

Adobe คาดว่า ยอดขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นราว 10% จากปีที่แล้ว เทียบกับยอดที่เพิ่มขึ้นราว 33% จากปีก่อนหน้านั้น

โดยยอดขายสินค้าออนไลน์ในวัน Black Friday ปีนี้อยู่ที่ะดับ 8,900 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 9,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ส่วนยอดขายวัน Cyber Monday ปีนี้ Adobe คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 10,200 ล้าน - 11,300 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 10,800 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว

ส่วนยอดขายภายในร้านค้าต่าง ๆ นั้น แม้รายงานระบุว่าตัวเลขผู้คนที่ไปช้อปปิ้งช่วง Black Friday ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 60% แต่ยังคงน้อยกว่าระดับเมื่อปี ค.ศ. 2019 ราว 27% อ้างอิงจากข้อมูลของ RetailNext

​นักวิเคราะห์เชื่อว่า เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนอเมริกันยังไม่แห่ซื้อสินค้าในช่วง Black Friday และ Cyber Monday ปีนี้มากเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา คือข่าวการค้นพบเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ โอมิครอน (Omicron) ที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากยังไม่อยากออกไปจับจ่ายซื้อสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ ก็ยังจำกัดจำนวนผู้เข้าร้าน

ขณะเดียวกัน Adobe Digital Economy Index ชี้ว่า เป็นครั้งแรกที่ร้านค้าต่าง ๆ ดูเหมือนจะลดราคาสินค้าน้อยกว่าปีก่อนหน้านั้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และเสื้อผ้าต่าง ๆ

เช่นเดียวกับ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ อย่างเช่น วอลมาร์ท ที่ไม่ใช้วิธีลดราคากระหน่ำภายในวันเดียวคือวัน Black Friday แต่เปลี่ยนมาใช้วิธีขยายเวลาลดราคาสินค้าหลายประเภทตลอดช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีแทน