Your browser doesn’t support HTML5
ผลเอ็กซิทโพลล์ที่เปิดเผยในวันอาทิตย์ แสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนธรา โมดี ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วประเทศ และจะได้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นสมัยที่สอง
ชาวอินเดียหลายล้านคนเข้าคูหาเลือกตั้งในช่วงสุดท้ายของการเลือกตั้งซึ่งใช้เวลา 5 สัปดาห์สำหรับการเลือกตั้งทั่วประเทศในช่วงต่างๆ
พรรคภารติยา จานาตะ ของนายกฯ โมดี ได้รับคาดหมายว่าจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้มาตั้งแต่แรก โดยผลเอ็กซิทโพลล์ล่าสุดที่จัดทำโดยสำนักวิจัย 5 แห่งต่างๆ กัน และเปิดเผยทางโทรทัศน์ ชี้ให้เห็นว่า พรรคภารติยา จานาตะ หรือ BJP อาจจะได้ที่นั่งราว 287 - 305 ที่นั่ง จากทั้งหมด 545 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหมายความว่าจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาฯ ด้วย
โดยคาดว่าพรรคที่ได้คะแนนเสียงตามมา คือพรรคคองเกรส ที่นำโดยนายราหุล คานธี น่าจะได้ที่นั่งไปประมาณ 124 - 128 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาผลเอ็กซิทโพลล์ในอินเดียอาจไม่ค่อยแม่นยำนัก เนื่องจากจำนวนคูหาเลือกตั้งที่มากมาย และจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มหาศาลถึง 900 ล้านคน ทำให้ผลนับคะแนนอย่างเป็นทางการนั้นอาจต้องใช้เวลาจนถึงอย่างน้อยวันพฤหัสบดีนี้
ในจำนวน 59 ที่นั่งจาก 8 รัฐ ที่ชิงชัยกันในการเลือกตั้งช่วงสุดท้ายในวันอาทิตย์นั้น เขตที่ถูกจับตามองที่สุด คือที่เมืองพราณสี ทางเหนือของรัฐอุตตระประเทศ ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของนายกฯ โมดีเอง และเป็นพื้นที่ที่พรรค BJP กวาดที่นั่งเกือบทั้งหมดในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อ 5 ปีก่อน
รัฐอุตตระประเทศ ถือเป็นรัฐใหญ่ มีประชากรราว 200 ล้านคน และมีที่นั่งในสภาฯ มากที่สุด คือ 80 ที่นั่ง ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของพรรค BJP ที่พรรคฝ่ายค้านต้องการตีให้แตก
แต่จากผลเอ็กซิทโพลล์แสดงให้เห็นว่า ฐานเสียงของพรรค BJP ในรัฐนี้ยังคงแข็งแกร่ง และน่าจะเป็นพื้นที่ที่พรรครัฐบาลทำผลงานได้ดีกว่ารัฐอื่นที่ถือเป็นรัฐสำคัญของประชากรที่นับถือศาสนาฮินดู คือรัฐมัธยประเทศ และรัฐราชสถาน ที่ซึ่งพรรค BJP พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่นเมื่อเดือนธันวาคม
การเลือกตั้งในช่วงสุดท้ายในวันอาทิตย์นี้ ยังถือเป็นสรุปสุดท้ายของการเดินเข้าคูหาเลือกตั้งของชาวอินเดีย ที่เหมือนเป็นการแสดงความเห็นว่ารับรองการทำงานของนายกฯ นเรนธรา โมดี ในสมัยแรกหรือไม่
ในการหาเสียงเลือกตั้ง นายโมดีพยายามนำเสนอภาพลักษณ์ผู้นำที่เข้มแข็งเด็ดขาด ที่เหมาะสมในการนำพาอินเดียสมัยใหม่ และรับมือจากภัยคุกคามจากเพื่อนบ้านและศัตรูสำคัญ คือ ปากีสถาน
แต่นายโมดีก็ถูกพรรคฝ่ายค้านโจมตีว่าเป็นผู้กระตุ้นแนวคิดชาตินิยมแบบรุนแรง ตลอดจนเป็นผู้ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เช่น อัตราการว่างงานสูง และความแตกต่างทางรายได้ที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขตเมืองกับชนบท ที่ยิ่งทำให้เกิดความแบ่งแยกภายในประเทศมากขึ้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกฯ โมดี แสดงความมั่นใจว่าพรรค BJP จะได้รับชัยชนะถล่มทลาย โดยกล่าวว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในช่วงเวลายาวนานที่พรรครัฐบาลได้รับเลือกให้บริหารประเทศเป็นสมัยที่สองและได้ครอบครองที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาฯ อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์สำคัญ
อย่างไรก็ตาม คุณนิลันจัน มุขโขปัทเย นักวิเคราะห์การเมืองอิสระ ชี้ว่า เกิดกระแสต่อต้านพรรค BJP อย่างรุนแรงในหมู่พรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรคเล็กพรรคน้อยต่างๆ จนทำให้พรรคเหล่านั้นยอมขจัดความแตกต่างเพื่อร่วมมือกันจัดตั้งพรรคพันธมิตรที่พร้อมจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชนเช่นกัน
ถึงกระนั้น ผลการเลือกตั้งของประเทศที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนี้จะเห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ เมื่อผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการประกาศออกมา