คิวบาเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านการเต้นละติน ไม่ว่าจะเป็นการเต้นในจังหวะแมมโบ รุมบา หรือซัลซา แต่เมื่อกระแสการเต้นในรูปใหม่ ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น การเต้นรำแบบดั้งเดิมก็หายไป ดังนั้นบรรดาผู้ปกครองจึงให้บุตรหลานของตนได้เรียนรู้การเต้นรำแบบคิวบา เพื่อที่จะรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้
ทรอปิคานา (Tropicana) สถานบันเทิงที่มีชื่อเสียงของคิวบา เป็นหนึ่งในสถานที่ในยุคก่อนปฏิวัติของกรุงฮาวานาที่ยังคงหลงเหลืออยู่ และยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก โดยได้สร้างมาตรฐานสำหรับการแสดงในรูปแบบที่เหมือน ๆ กันด้วยการใช้นักแสดงที่มีหน้าตาสวยงามแต่งตัวด้วยชุดที่ประดับด้วยขนนกและปักเลื่อม เพื่อเป็นการส่งเสริมดนตรีและสุนทรียภาพสไตล์ละติน
แต่ถึงแม้ว่าสถานบันเทิงแห่งนี้จะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับบรรดานักท่องเที่ยว แต่คนรุ่นเยาว์ชาวคิวบาก็ยังคงหลงลืมการเต้นรำเหล่านี้ไป
ทรอปิคานากลายกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เพราะยังคงมีการแสดงดนตรีและการเต้นรำที่โด่งดังอันเป็นเอกลักษณ์ของคิวบา ฮวน อาร์มานโด เปเรซ ผู้กำกับศิลป์ของทรอปิคานากล่าวว่า การเต้นสไตล์ละตินเป็นมรดกที่ชาวคิวบาต้องอนุรักษ์ไว้ และว่า “ทุก ๆ คืนบรรดานักแสดงต่างแสดงกันอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องวัฒนธรรมของคิวบาเอาไว้”
แต่การที่มีอินเทอร์เน็ตใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนทั่วประเทศหันไปฟังและเต้นรำในแนวเพลงอื่น ๆ มาแทนที่การเต้นรำแบบดั้งเดิมอย่างแมมโบ และรุมบา
ทั้งนี้ ประเพณีที่หยั่งรากลึกที่สุดอย่างหนึ่งของคิวบาที่ผู้คนในประเทศรู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุด ก็คือเสียงดนตรีและการเต้นรำ ซึ่งเป็นการผสมผสานของมรดกทางวัฒนธรรมของแอฟริกา สเปน และจีน
โรงเรียนสอนเต้นรำ "โปรเย็คโต เอสปาโฮ" หรือ Mirror Project ก่อตั้งขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วใจกลางเมืองหลวงของคิวบา ปัจจุบันทางโรงเรียนได้มาเปิดสอนการแสดงการเต้นรำคิวบาบนเวทีให้แก่เด็กผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่อายุสี่ขวบขึ้นไปสัปดาห์ละสามครั้ง ที่เขตชานกรุงฮาวานา โดยจะสอนเต้นฟลาเมงโกควบคู่ไปกับการเต้นรำแบบคิวบาแบบดั้งเดิม และถึงแม้ว่าโรงเรียนนี้จะเปิดสอนทั้งเด็กหญิงและชาย แต่นักเรียน 30 คนในฤดูกาลนี้เป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมด
เทศบาลเมืองสนับสนุนโครงการนี้โดยจัดให้มีพื้นที่ฝึกซ้อม และบรรดาผู้ปกครองก็พาบุตรหลานมาเรียนเพื่อส่งเสริมให้พวกเขาได้เรียนรู้วัฒนธรรมของคิวบา โดยจ่ายค่าเล่าเรียนเดือนละ 700 เปโซคิวบา หรือราว 29 ดอลลาร์ ไม่รวมอุปกรณ์การฝึกซ้อมและเครื่องแต่งกาย ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินจำนวนมากสำหรับครอบครัวที่ยากจน
ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน แม้ชาวคิวบาจำนวนมากมีรายได้ไม่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่พ่อแม่ยังคงเชื่อว่าเงินที่เสียไปในการเรียนเต้นรำนั้นคุ้มค่า เพราะการร้องเพลงและเต้นรำเป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ประจำชาติของตน
แคลีส โนอา ครูสอนเต้นรำคนหนึ่งกล่าวว่า การเต้นรำซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของชาวคิวบา ควรอยู่คู่กับชาวคิวบาตลอดไป
โนอาและ มิเกล แองเจิล เอร์เรรา เฟอร์นันเดซ ครูสอนเต้นรำอีกคนหนึ่งพานักเรียนมาแสดงที่สถานบันเทิงทรอปิคานา แม้จะทราบว่าลูกศิษย์หลาย ๆ คนของตนคงจะไม่ได้กลายเป็นนักเต้นมืออาชีพ แต่พวกเขาก็มั่นใจว่าช่วงเวลาที่ใช้ไปในการฝึกสอนนักเรียนเหล่านี้ จะมีส่วนช่วยในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของคิวบา
ยูเลียต โลโยลา คุณแม่ของนักเรียนเต้นรำคนหนึ่งกล่าวว่า ชาวคิวบามีชีวิตอยู่คู่กับการเต้นรำ ฉะนั้น การร้องไห้ หรือนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในบ้านคงจะไม่เกิดประโยชน์อะไร สู้เปิดเพลงแล้วเต้นรำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวคิวบาจะดีกว่า
- ที่มา: เอพี