Your browser doesn’t support HTML5
คณะกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี (Centers for Disease Control and Prevention) ประกาศเกณฑ์จัดลำดับความสำคัญของประชากรกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนต้านโคโรนาไวรัส โดยจะเป็นกลุ่มผู้ทำงานการแพทย์ และผู้อาศัยอยู่ตามบ้านพักคนชรา
คณะกรรมการที่ปรึกษาลงมติ 13 ต่อ 1 เสียง เมื่อวันอังคารให้กลุ่มประชากรข้างต้น จำนวน 24 ล้านคน รับวัคซีนได้ทันทีเมื่อมีการอนุมัติให้ทำการแจกจ่ายต่อประชากรได้
คาดว่าจะมีวัคซีนชุดเเรกจำนวน 40 ล้านโดส พร้อมใช้ในสหรัฐฯ ก่อนสิ้นปีนี้ จากผู้ผลิตสองรายคือ Pfizer และ Moderna
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่าปริมาณวัคซีนดังกล่าวน่าจะเพียงพอต่อผู้อาศัยอยู่ตามบ้านพักคนชราจำนวน 3 ล้านคนและคนส่วนใหญ่ที่ทำงานด้านการแพทย์ 21 ล้านคน หากพิจารณาว่าวัคซีนของทั้งสองบริษัท ต้องใช้สองโดสต่อผู้รับวัคซีนแต่ละราย โดยเว้นช่วงการฉีดเข็มแรกและเข็มที่สองระยะเวลา 2-3 สัปดาห์
เจ้าหน้าที่ด้านวัคซีนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กล่าวว่าในต้นปีหน้า สหรัฐฯน่าจะผลิตและจัดส่งวัคซีนได้ระดับ 70 ล้านโดสต่อเดือน และถ้ามีบริษัทอื่นที่สามารถผลิตวัคซีนและได้รับอนุมัติด้านความปลอดภัยเพิ่ม สหรัฐฯ อาจจะสามารถผลิตวัคซีนในระดับ 150 ล้านโดสต่อเดือนได้ในเดือนมีนาคม
และเมื่อเข้าถึงช่วงเดือนเมษายน พฤษภาคมและมิถุนายน มีความเป็นไปได้ว่าวัคซีนต้านโควิดจะมีเพียงพอสำหรับประชาชนในอเมริกาโดยทั่วไป ที่มิได้เป็นผู้สูงอายุหรือมิได้ทำงานที่ถูกระบุว่าเป็นอาชีพที่ต้องได้วัคซีนก่อน
การกำหนดเกณฑ์เมื่อวันอังคารสำหรับประชากรที่จะได้รับวัคซีนชุดแรก มีขึ้นขณะที่สหรัฐฯ พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 4 ล้าน 3 แสน 6 หมื่นคน ในเดือนพฤศจิกายน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ และเพิ่มจากเดือนตุลาคมประมาณสองเท่า
ในการลงมติ 13 ต่อ 1 เสียงของคณะกรรมการที่ปรึกษาซีดีซี เสียงที่ไม่เห็นด้วยสำหรับการกำหนดเกณฑ์ดังกล่าวคือ เเพทย์หญิง เฮเลน ทัลบ็อต ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อแห่งมหาวิทยาลัยเเวนเดอร์บิล์ท
เธอไม่เห็นด้วยที่ผู้ที่อาศัยอยู่บ้านพักคนชรา จะเป็นกลุ่มเเรกที่จะได้รับวัคซีนเพราะ ยังไม่มีการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนต่อคนกลุ่มดังกล่าว
และในวันพุธ ซีดีซีประกาศว่า จำนวนวันของการกักตัวดูอาการสำหรับผู้ที่อาจติดเชื้อโคโรนาไวรัส อาจลดลงจาก 14 วัน มาเป็น 10 วัน หรือ 7 วันได้ หากผู้ถูกกักตัวตรวจไม่พบเชื้อโคโรนาไวรัส
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบเพื่ออนุมัติวัคซีนสำหรับการใช้ต่อประชาชน กำลังรับเรื่องพิจารณาด่วนสำหรับวัคซีนต้านโควิดของ Pfizer นอกจากนั้นในวันจันทร์ Moderna ก็จะยื่นเรื่องด่วนลักษณะเดียวกันต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ
คาดว่ารัฐบาลอเมริกันน่าจะมีประกาศเรื่องความพร้อมของวัคซีนของ Pfizer ในอีกไม่กี่วันจากนี้
ทั้งนี้เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโคโรนาไวรัสสูงที่สุดในโลก โดย มีผู้ถูกตรวจพบเชื้ออยู่ที่ราว 13 ล้าน 7 แสนคน จากประชากรโลกที่ติดเชื้อดังกล่าวไปแล้ว 63 ล้าน 6 แสนคน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ตัวเลขของสหรัฐฯอยู่ที่ กว่า 2 แสน 7 หมื่นราย จากประชากรโลกกว่า 1 ล้าน 4 แสนราย ที่เสียชีวิตลงจากโรคดังกล่าว ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins