รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ยืนยันต่อรัฐสภาว่า จุดเริ่มต้นของการต่อสู้กับศัตรูร่วมของทุกฝ่าย ซึ่งก็คือ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว พร้อมกับการเริ่มแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ในวันอังคาร
ขณะที่การเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงในอังกฤษเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการผ่านโรงพยาบาล 70 แห่งทั่วประเทศ แมทท์ แฮนค็อค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข กล่าวย้ำว่า อังกฤษยังมีหลายเรื่องที่ต้องทำในการจัดการกับวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้
รมต.สาธารณสุขอังกฤษ ระบุว่า หนึ่งในความท้าทายอันดับต้นๆ สำหรับปฏิบัติการแจกจ่ายวัคซีนนี้ คือการนำส่งวัคซีนให้ถึงศูนย์พักฟื้นและบ้านพักคนชราทั้งหลาย รวมทั้งเครือข่ายคลินิกและโรงพยาลต่างๆ เนื่องจากประเด็นด้านโลจิสติกส์เพราะยาดังกล่าวต้องถูกเก็บในอุณหภูมิเยือกแข็งตลอดเวลา
และแม้ว่า วัคซีนจะเป็นสิ่งที่น่าจะช่วยยับยั้งการระบาดได้ รมต.แฮนค็อค กล่าวว่า ยังมีข้อบ่งชี้ว่า ไวรัสจะยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ประชาชนจนต้องควรทำตามหลักปฏิบัติและข้อจำกัดเพื่อควบคุมการระบาดทั้งหลายอย่างสม่ำเสมอ
อังกฤษเป็นชาติตะวันตกแห่งแรกที่มีการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชน หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยงานกำกับดูแลอนุมัติการใช้ยานี้ที่ผลิตโดยบริษัทเวชภัณฑ์ ไฟเซอร์ (Pfizer) และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ ไบโอเอ็นเทค (BioNtech) ของเยอรมนี
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า หน่วยการกำกับดูแลของสหภาพยุโรป อาจอนุมัติการใช้งานวัคซีนต้านโควิด-19 สำหรับประชาชนในกลุ่มประเทศสมาชิกภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้แล้ว
และในเวลาที่หลายประเทศเริ่มยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดที่กลับมารุนแรงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าชายวิลเลี่ยมและพระชายา เสด็จเยือนเวลส์และสกอตแลนด์ เพื่อแสดงความขอบคุณต่อการเสียสละของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 และส่งมอบคำอวยพรคริสต์มาส
แต่สำนักข่าว Associated Press รายงานว่า การเสด็จเยือนครั้งนี้ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้บริหารรัฐบาลทั้งสองแห่งยินดีมาก เนื่องจากว่า ไม่เห็นถึงความจำเป็นในเวลาที่วิกฤตโควิด-19 ยังรุนแรงอยู่ ขณะที่ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ให้ความเห็นว่า การเดินทางไปยังทั้งสองประเทศนี้ถือเป็นสิ่งที่ “มีคุณค่าอย่างมาก” และจะเป็น “การเพิ่มขวัญและกำลังใจ” ให้กับเจ้าหน้าที่การแพทย์ทั้งหลายที่อยู่ในแถวหน้าของการรับศึกครั้งนี้
ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรแล้วกว่า 1.75 ล้านคน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ประมาณ 62,130 คน