นายกฯ อังกฤษ เรียกกลุ่มต่อต้านวัคซีน “คนบ้า”

Britain's Prime Minister Boris Johnson visits the Tollgate Medical Centre in Beckton, London, Britain July 24, 2020.

นายกรัฐมนตรีอังกฤษให้ความเห็นโต้กลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน ที่ออกมาจัดการชุมนุมแสดงจุดยืน ขณะที่ทั่วโลกเฝ้ารอความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ที่เริ่มมีการทดลองในมนุษย์ไปบ้างแล้ว

ขณะเข้าเยี่ยมศูนย์การแพทย์ในกรุงลอนดอนเพื่อแสดงการสนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกันต้านไข้หวัดใหญ่ในวันศุกร์ตามเวลาในอังกฤษ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ได้ใช้เวลาพูดคุยกับเหล่าพยาบาลเกี่ยวกับความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก่อนที่จะถึงฤดูหนาว เพื่อที่จะให้ระบบสาธารณสุขของประเทศไม่ต้องรับภาระหนักในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสดังกล่าว ขณะที่วิกฤติโควิด-19 ยังดำเนินอยู่คน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ระหว่างการพูดคุยนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า จำนวนไม่น้อยที่ไม่ยอมให้ลูกหลานของตนฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเด็กนั้น เป็นพวก “คนบ้า”

กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการฉีดวัคซีนจัดการชุมนุมหลายครั้งในระหว่างที่ยังมีการระบาดของโควิด-19 ด้วยความเชื่อที่ว่า ส่วนประกอบในวัคซีนนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์ แม้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะพิสูจน์ว่าคำกล่าวหานั้นไม่จริงก็ตาม

ขณะเดียวกัน วิกฤติโควิด-19 กลับกลายมาเป็นตัวจุดประกายเรื่องของทฤษฎีสมคบคิดที่ว่า อุตสาหกรรมยามีแผนการบางอย่างเกี่ยวกับวัคซีนด้วย

องค์การสหประชาชาติออกมาเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อัตราการฉีดวัคซีนในเด็กกำลังลดลงอย่างน่าใจหาย เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 พร้อมทั้งเตือนว่า จำนวนเด็กที่เกิดมาในช่วงนี้และจะได้รับวัคซีนทุกตัวที่ควรได้ครบก่อนถึงอายุ 5 ปีนั้น อาจมีไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

ในส่วนของมาตรการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ของอังกฤษ รัฐบาลกรุงลอนดอนเพิ่งออกกฎใหม่ที่บังคับให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากเมื่อเข้าใช้บริการร้านค้าปลีกต่างๆ และเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจสั่งปรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามเป็นเงินถึง 127 ดอลลาร์ หรือเกือบ 4,000 บาท ด้วย