รัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่าได้เริ่มเก็บสำรองยาที่เชื่อว่าจะช่วยรักษาอาการป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับโควิด-19 ไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นกว่าปกติ
อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ที่ระบุว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำการตกลงกับบริษัทยาที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดหายาเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 เพื่อให้ชาวอเมริกันมั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงการรักษาที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลในกรณีที่จำเป็น พร้อมย้ำว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าผู้ป่วยทุกคนที่จำเป็นต้องใช้ยาดังกล่าวจะได้รับยาอย่างทันท่วงที
ตามแถลงการณ์ล่าสุดนี้ กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ มีกำหนดค่อยๆ รับยาเรมเดสซิเวียร์ (remdesivir) จำนวนกว่า 500,000 โดสไปจนถึงเดือนกันยายนนี้
การศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้ ชี้ว่า ยาเรมเดสซิเวียร์ มีผลช่วยลดระยะเวลาการฟื้นตัวของคนไข้โควิด-19 ได้ ทำให้ยานี้เป็นตำรับแรกที่มีการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาอาการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในมนุษย์ โดยรัฐบาลในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐฯ อนุญาตให้สั่งจ่ายยาตัวนี้ในกรณีการรักษาฉุกเฉินมาแล้ว
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ยาเรมเดสซิเวียร์ เคยถูกใช้ในการรักษาโรคเมอร์สและโรคซาร์ส มาแล้วในอดีต โดยไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทั้งสองนี้เป็นเชื้อตระกูลโคโรนาไวรัสเช่นกัน ซึ่งบ่งชี้ว่ายาดังกล่าวน่าจะสามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้เช่นกั
สำนักข่าว Associated รายงานในวันจันทร์ว่า บริษัทยา Gilead Sciences ผู้พัฒนายาเรมเดสซิเวียร์ ได้ประเมินค่ายาตัวนี้ในการรักษาคนไข้โควิด-19 ต่อคนที่ 2,340 ดอลลาร์ หรือราว 71,370 บาท สำหรับกรณีที่รัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ขณะที่ราคาจะพุ่งขึ้นเป็น 3,120 ดอลลาร์ หรือประมาณ 95,160 บาทต่อคน หากเป็นกรณีที่ผู้ป่วยใช้บริการบริษัทประกันเอกชน
ทันทีที่ Gilead ประกาศราคาดังกล่าวออกมา ก็มีผู้ออกมาวิจารณ์ทันทีว่าสูงเกินไปจนน่าเกลียด และนักวิเคราะห์ประมาณว่า บริษัทน่าจะทำเงินจากการขายยาตัวนี้ได้ถึง 525 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,100 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า