สถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในยุโรปและสหรัฐฯ บ่งชี้ถึงการกลับมาของการแพร่กระจายเชื้อรอบใหม่ ที่ทำให้หลายประเทศต้องเร่งดำเนินมาตรการควบคุมอย่างเร่งด่วน
ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัย จอนส์ ฮฮพกินส์ ณ บ่ายวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 43.2 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่กว่า 1.15 ล้านคนแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า แม้จะมีข่าวความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ออกมาเป็นระยะๆ แมทท์ แฮนค็อค รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ เตือนว่า ทั่วโลกจะต้องรอถึงต้นปีหน้ากว่าที่วัคซีนนี้จะมีออกมาให้ใช้งานได้ทั่วถึง ซึ่งหมายความว่า ทุกคนต้องรอไปอีกสักพัก
ทั้งนี้ ภาพรวมของสถานการณ์การระบาดในยุโรปนั้นยังดูน่าเป็นห่วงอยู่ เนื่องจากอัตราการติดเชื้อใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นในหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส ซึ่งรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงถึงกว่า 50,000 รายเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ ทีมงานที่ปรึกษาของรัฐบาลฝรั่งเศสคาดว่า อัตราการติดเชื้อรายวันอาจพุ่งถึงระดับ 100,000 รายต่อวันในเร็วๆ นี้
และในเวลาที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตในภูมิภาคยุโรปนั้นทะลุระดับ 250,000 รายไปแล้ว รัฐบาลหลายแห่งกำลังพยายามหลีกเลี่ยงที่จะออกคำสั่งล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดดังเช่นที่ได้ใช้ไปเมื่อช่วงต้นปีได้สำเร็จ แต่ส่งผลเสียหายหนักต่อสภาพเศรษฐกิจของตน และเลือกที่จะดำเนินมาตรการควบคุมอื่นๆ ให้เข้มงวดแทน
สื่อเยอรมนี รายงานว่า นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล กล่าวกับผู้นำพรรค Christian Democrat ระหว่างการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เยอรมนีจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากเข็ญขึ้นมากในช่วงไม่กี่เดือนจากนี้
ขณะเดียวกัน รัสเซียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 17,347 คน ในวันจันทร์ โดยในเวลานี้ รัสเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 1.5 ล้านคน จากจำนวนประชากรที่ราว 145 ล้านคน และถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 4 ของประเทศที่มีการติดเชื้อสูงสุดในโลก ตามหลัง สหรัฐฯ ที่ยังอยู่ในอันดับที่ 1 อินเดีย ในอันดับที่ 2 และบราซิล ในอันดับที่ 3
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลเครมลินออกคำเตือนแล้วว่า การระบาดใหญ่นั้นกำลังเริ่มลุกลามออกมานอกเขตกรุงมอสโกแล้ว
ส่วนที่อิตาลี รัฐบาลประกาศใช้มาตรการควบคุมใหม่ๆ เช่น คำสั่งให้ภัตตาคารและบาร์ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18 นาฬิกา และการปิดให้บริการโรงภาพยนตร์และยิม รวมทั้งการออกคำสั่งเคอร์ฟิวในหลายภูมิภาคของประเทศ
รายงานของ รอยเตอร์ส ระบุว่า ตัวเลขเฉลี่ย 7 วันของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 69,494 คน และตัวเลขเฉลี่ยของผู้เสียชีวิตนั้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 800 คนต่อวันด้วย
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันโดยไม่มีหลักฐานว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นเพราะการทดสอบการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นต่างหาก