รัฐแคลิฟอร์เนียอยู่ในภาวะ “ล็อคดาวน์” หลังผู้ว่าการรัฐฯ เกวิน นิวซัม ออกคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ให้ประชาชนราว 40 ล้านคนอยู่แต่ในบ้าน และห้ามออกจากเคหะสถานหากไม่จำเป็น
คำสั่งดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที มีออกมาหลังตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในรัฐ เพิ่มเป็น 19 คน และมีผู้ติดเชื้อไม่น้อยกว่า 958 คน โดยการล็อคดาวน์ทั่วทั้งรัฐนี้ยังเกิดขึ้นไม่นาน หลังนครลอสแองเจลิสประกาศสั่งห้างและร้านที่ไม่มีความจำเป็นต้องเปิดให้บริการในช่วงนี้ รวมทั้งสนามเด็กเล่นทั่วเมืองให้ปิดไปแล้ว
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย คาดการณ์ว่า ประชาชนกว่าครึ่งหนึ่งในรัฐนี้มีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ภายใน 8 สัปดาห์นับจากนี้ และภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ทางรัฐจะต้องจัดหาเตียงในโรงพยาบาลเพิ่มเติมเกือบ 20,000 เตียง จากที่มีอยู่เพื่อรับมือกับการแพร่กระจายของไวรัส
ผู้ว่าการนิวซัม เปิดเผยด้วยว่า ทางรัฐฯ ได้ทำเรื่องขอเงินช่วยเหลือจากสภาคองเกรสจำนวน 1,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยสนับสนุนการรับมือกับวิกฤติทางการแพทย์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
คำสั่งปิดรัฐของแคลิฟอร์เนียเป็นมาตรการที่มีผลในวงกว้างที่สุดเท่าที่รัฐบาลใดๆ ในสหรัฐฯ ดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโคโรนาไวรัส อย่างไรก็ดี นิวซัม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า คำสั่งนี้ไม่ได้มีบทลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งปกติผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐจะถูกปรับไม่เกิน 1,000 ดอลลาร์ และอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน