นโยบายปิดพรมแดนของออสเตรเลียเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ครอบครัวของแรงงานต่างด้าวจำนวนไม่น้อยต้องพลัดพรากจากกัน
รัฐบาลออสเตรเลียดำเนินนโยบายปิดพรมแดนไม่รับคนต่างชาติเข้าประเทศเป็นเวลาหลายสัปดาห์ทำให้แรงงานต่างด้าวหลายคนไม่สามารถเดินทางกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ แม้จะมีเสียงร้องเรียนให้นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน พิจารณาผ่อนผันให้เฉพาะคนกลุ่มดังกล่าวเข้าประเทศเพื่อทำงานและพบปะกับครอบครัวแล้วก็ตาม
แรงงานต่างด้าวในออสเตรเลียนั้นรวมความถึงพลเมืองอเมริกัน อังกฤษ แอฟริกาใต้ และบราซิลจำนวนหลายร้อยคน ที่เพิ่งเดินทางกลับบ้านเกิดไปก่อนหน้านี้ด้วยจุดประสงค์ต่างๆ ก่อนที่การระบาดของโควิด-19 จะรุนแรงขึ้นจนรัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราต้องตัดสินใจปิดพรมแดนชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา
ทางการออสเตรเลียกล่าวว่า การตัดสินว่าผู้ใดสามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศได้นั้นต้องผ่านกระบวนการพิเศษที่จะพิจารณาผลกระทบด้านสาธารณสุขเป็นหลัก พร้อมย้ำว่า การปิดพรมแดนสำหรับชาวต่างชาตินั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ออสเตรเลียสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับชาวออสเตรเลียนและผู้ที่ถือใบอนุญาตให้พำนักและทำงานในออสเตรเลียได้อย่างถูกกฎหมายนั้น ทางการอนุญาตให้เดินทางกลับเข้าประเทศได้แต่ต้องทำการกักตัวเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วัน ภายในโรงแรมที่รัฐบาลจัดเอาไว้ให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัย จอห์นส ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่า ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กว่า 7,000 คน โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 99 คน