บรรดาผู้นำระดับสูงของจีนรับรองมติว่าด้วยประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเชื่อว่าเป็นการปูทางเพื่อให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้อีกหลายปีหลังจากครบเทอมที่สองในปีหน้า
สำนักข่าวซินหว่ารายงานว่า มติว่าด้วยผลงานและประสบการณ์เชิงประวัติศาสตร์ของพรรคอมมิวนิสต์จีน ผ่านการรับรองระหว่างการประชุมของคณะกรรมการกลางพรรคคอมนิวนิสต์ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันพฤหัสบดี
คาดว่าแถลงการณ์ประวัติศาสตร์ฉบับนี้จะเน้นย้ำความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์ในการบริหารเศรษฐกิจจีนให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
แถลงการณ์รับรองมติฉบับนี้จัดทำขึ้นเป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ 100 ปีของพรรคคอมนิวนิสต์จีน โดยเชื่อว่าการรับรองมตินี้มีขึ้นเพื่อยกสถานะของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้เทียบเท่ากับบุคคลสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสองท่าน คือ ประธานเหมา เจ๋อตุง ผู้ก่อตั้งพรรค และ เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้ปฏิรูปจีนให้กลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
และจะถือเป็นการล้มธรรมเนียมปฏิบัติของพรรคในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ที่กำหนดให้ประธานาธิบดีจีนสามารถดำรงตำแหน่งได้เพียงสองเทอมรวมระยะเวลา 10 ปี
ก่อนหน้านี้เมื่อสามปีที่แล้ว พรรคคอมมิวนิสต์จีนเพิ่งมีมติยกเลิกการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีสี ซึ่งจะช่วยให้เขาสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ต่อไปหลังจากครบเทอมที่สองในปีหน้า
ที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีสี ถูกนำเสนออย่างยิ่งใหญ่ผ่านการประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อของสื่อของทางการจีน ที่โหมประโคมความสำเร็จของผู้นำจีนทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี โครงการด้านอวกาศ และการรับมือการระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนเตือนว่า เมื่อมองจากประสบการณ์ของหลายประเทศในเอเชีย แอฟริกาและละตินอเมริกา จะเห็นได้ว่าการมีผู้นำที่ครองอำนาจเพียงผู้เดียวเป็นเวลานานนั้น ในที่สุดแล้วอาจนำไปสู่หายนะทางการเมือง การบริหารประเทศและเศรษฐกิจก็เป็นได้